ชาผูเอ๋อร์ หรือ ชาผู่เอ๋อร์ คืออะไร
ชาผู่เอ๋อร์ มีประวัติที่ยาวนานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ตงฮั่นและเริ่มมีการค้าขายใบชาในราชวงศ์ถัง ในราชวงศ์หมิง ชาผู่เอ๋อร์ ได้เป็นที่รู้จักและเริ่มมีชื่อเสียง โดยเฉพาะในราชวงศ์ชิง ชาผู่เอ๋อร์ จะมีชื่อเสียงมากที่สุด บันทึกเรื่องราวและตำนานของชาผู่เอ๋อร์ อันลึกลับซับซ้อนน่าหลงไหลเฉกเช่นเดียวกับชีวิตมนุษย์ ที่ต้องผ่านประสบการณ์หลากหลายรสชาติ ทั้งเปรี้ยว หวาน ขม และฝาด และจากประวัติอันยาวนานได้พิสูจน์ความเป็นชาที่มีคุณภาพที่ดีเลิศ อีกทั้งชาผู่เอ๋อร์ ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งล้ำค่า กลิ่นหอมยิ่งละมุนละไม
ที่มาของคำว่า “ผู่เอ๋อร์”
“ผู่เอ๋อร์”เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อจังหวัดแห่งหนึ่งที่รู้จักกันดีตั้งแต่สมัยอดีตจังหวัดผู่เอ๋อร์ เป็นศูนย์กระจายเกลือ และใบชา รวมถึงเป็นศูนย์กลางของเส้นทางคาราวานม้าโดยมีผู้คนผ่านไปมามากมาย จึงทำให้การค้าขายค่อยๆ ได้รับการพัฒนาจนเป็นที่รู้จักกันดีภายในประเทศจีน
1. ชาผู่
ในสมัยราชวงศ์หยวนมีพื้นที่ที่หนึ่งชื่อว่า “ปู้ยรื้อปู้” และเมื่อออกเสียงเป็นภาษาจีนกลาง ว่า “ผู่เอ๋อร์” ดังนั้น ที่มาของชื่อจังหวัดผู่เอ๋อร์ จึงมาจากคำว่า “ปู้ยรื้อปู้” และถูกเรียกเพี้ยนตามภาษาจีนจนกลายเป็นชื่อจังหวัดผู่เอ๋อร์ ในที่สุด ในอดีต ชาของมณฑลยูนนานไม่มีชื่อเรียกเฉพาะของใบชา ผู้คนทั่วไป จึงเรียกชาชนิดนี้ว่า “ชาผู่” ตามชื่อจังหวัดผู่เอ๋อร์ จึงกลายเป็นที่มาของ “ชาผู่”
《จากสมุดบันทึกประจำมลฑลยูนนาน》ได้บันทึกไว้ว่า “สิ่งที่ทหาร และสามัญชนมักดื่ม ล้วนเป็นชาผู่ ซึ่งต้องนึ่งเป็นรูปกลมแล้วค่อยชงมาดื่มได้”
2. ชาผู่เอ๋อร์
ด้วยคุณสมบัติเฉพาะของชาผู่ ที่มีรสชาติเข้มข้น ชาผู่ จึงกลายเป็นชาที่ต้องดื่มคู่กับอาหารประเภทเนื้อสัตว์ของชนเผ่าต่างๆ ที่นิยมรับประทานเนื้อสัตว์เป็นอาหารหลัก เช่น ฑิเบตซีคังซินเจียงเป็นต้นด้วยเหตุผลนี้เองชาผู่ จึงมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วจนกระทั่งถึงราชวงศ์หมิง จึงได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “ชาผู่เอ๋อร์”
บันทึกของ ฟางจงทง ตอนความรู้เล็กๆ น้อยๆ ทางกายภาย ได้บันทึกไว้ว่า “ชาผู่เอ๋อร์ นั้น ถูกนึ่งให้เป็นลักษณะรูปกลม ค้าขายกันในตลาดในเขตตะวันตกของจีน” โดย ผลิตภัณฑ์ชาที่ผลิตจากใบชาในเขตมณฑลยูนนาน จะถูกเรียกว่า ชาผู่เอ๋อร์
3.ความหมายของ ชาผู่เอ๋อร์ ในปัจจุบัน
ชาผู่เอ๋อร์ เป็นใบชาคุณภาพดีที่ปลูกอยู่เฉพาะภายในมณฑลยูนนาน เท่านั้น โดยจะใช้ใบชา ที่มีลักษณะใบชา ใหญ่แห้งปนสีเขียว ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคนิค และวิธีเฉพาะ ทำให้ได้รสชาติดี
เยี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาผู่เอ๋อร์
ชาผู่เอ๋อร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ชาดิบ และชาสุก ชาดิบ คือ ชาที่ได้จากการทิ้งใบชา ไว้ให้เกิดการหมักตัวเองตามธรรมชาติ ส่วนชาสุกได้จากใบชา ซึ่งผ่านกรรมวิธีหมักบ่ม โดยเทคนิคพิเศษ “ชาผู่เอ๋อร์ ยิ่งเก็บไว้นานยิ่งล้ำค่า กลิ่นหอมของชายิ่งละมุนละไม” คือ ลักษณะพิเศษของชาผู่เอ๋อร์
“ชาผู่เอ๋อร์ ที่เก่าเก็บ กลิ่นยอมเย้ายวนเปรียบดั่งดอกกล้วยไม้ เมื่อใดได้ลิ้มรสชา เสมือนได้รับรู้ถึงรสชาติที่ผ่านการสั่งสมหมักบ่มมานานนับพันปี”
ชาผู่เอ๋อร์ ได้ชื่อว่า “เป็นวัตถุโบราณที่ยังสามารถดื่มได้” กล่าวกันว่า ความล้ำค่าของ ชาผู่เอ๋อร์ อยู่ที่ความเก่าเก็บ ยิ่งเก็บไว้นานวัน มูลค่าจะยิ่งสูงขึ้นตามกาลเวลาที่เพิ่มขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
กลุ่มความรู้และสรรพคุณชาผู่เอ๋อร์สุก และชาผู่เอ๋อร์ดิบ
เพื่อนๆถามว่า : คนเป็นเบาหวานควรดื่มชาประเภทไหน?
mr.puerh ตอบ : แนะนำเป็นชาผู่เอ๋อร์ ชนิด สุกครับผม เพราะว่า ในชาผู่เอ๋อร์สุก
เพราะมีทีโพลีฟีนอล เมื่อมันจับตัวกับน้ำตาลแล้วทำให้โมเลกุลมันใหญ่ขึ้น
ทำให้ลดการดูดซึมของโมเลกุลน้ำตาลได้
เพื่อนๆถามว่า : ดื่มแทนน้ำเลยได้หรือไม่
mr.puerh ตอบ : ได้ครับ สำหรับชาสุก เพราะ มีคาแฟอีน ต่ำหรือไม่มีเลย ทำให้สามารถดื่มได้ทั้งวันครับ
ส่วนชาดิบ จะยังมีคาแฟอีน ทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับการดื่มก่อนนอน
เพื่อนๆถามว่า : ชาผู่เอ๋อร์ดิบ เก็บไปนานๆเป็น 50 ปี จะเป็นชาผู่เอ๋อร์ดิบหรือไม่
mr.puerh ตอบ : คำถามนี้พบเจอได้บ่อยครับ หลังจากที่ผมไปสอบถามจากผู้ผลิตชาผู่เอ๋อร์แล้วได้คำตอบว่า
ชาผู่เอ๋อร์ดิบ เก้บให้เก่ายังไงก็เป็นชาผู่เอ๋อร์ดิบเก่าไม่มีทางเป็นชาผู่เอ๋อร์สุกได้เลย
เพราะกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ดังนั้น ชาผู่เอ๋อร์สุกก็คือชาผู่เอ๋อร์สุก
ชาผู่เอ๋อร์ดิบที่อายุเยอะมากๆก็คือชาผู่เอ๋อร์ดิบเก่า ครับ
>>> เข้าชมคำถามที่พบบ่อย <<<
หน้าที่เข้าชม | 334,704 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 150,205 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ก.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ก.ย. 2568 |