เทคโนโลยีและความรู้ชั้นสูงในการผลิตชาผุ่เอ๋อร์ของต้าอี้
เทคนิคการผลิตชาผู่เอ๋อร์ของต้าอี้นั้น ได้รับการคัดเลือกและบันทึกให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมแห่งชาติ เทคโนโลยีการผลิตชาผู่เอ๋อร์ที่สำคัญที่สุดคือ เทคนิคในการผสมผสานใบชาและเทคนิคในการหมักชาผู่เอ๋อร์ ทั้ง 2 เทคนิคนี้ ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีสูงสุดในกระบวนการผลิตชาผู่เอ๋อร์ของ ต้าอี้
1. เทคนิคในการผสมชา
การผสมชา หมายถึง กระบวนการนำใบชาหรือก้านใบชาและคุณภาพที่แตกต่างกัน แต่ต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานบางอย่างของชาที่คล้ายกันมาผสมกัน แล้วค่อยนำไปผลิต วิธีนี้จะเป็นวิธีการปรับปรุงคุณภาพของใบชาและความดั่งเดิมของรสชาติให้คงที่ เพื่อตัดปัญหาของสรชาติที่ไม่คงที่ของชา ที่คือจุดเด่นของชาผู่เอ๋อร์ต้าอี้ที่ยากจะเรียนแบบ นอกจากนี้ยังเพื่อความสวยงามของรูปร่างชาและเพื่อปรับสีสันแผ่นชาให้สม่ำเสมอ และการผสมชายังช่วยเพิ่มกลิ่นหอม หรือเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติของชาได้อีกด้วย
ทฤษฎีพื้นฐานและหลักการสำคัญของการผสมผสานชาผู่เอ๋อร์มีดังนี้
1. ระบบทฤษฎี “ความเข้ากันได้” เทคนิคการผสมชาผู่เอ๋อร์มาจากทางการแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิม ชาผู่เอ๋อร์ในสมัยโบราณและในสมัยราชวงศ์ชิง ชาผู่เอ๋อร์ล้วนมีความเกี่ยวข้องกับแพทย์แผนจีนอย่างมาก ด้วยเหตุที่ทฤษฎีการแพทย์จีนในสมัยโบราณมีคำพูดที่ใช้กันทั่วไปว่า “อาหารและยามีที่มาจากที่เดียวกัน” พวกเขาคิดว่าการดื่มชาผู่เอ๋อร์นอกจากเป็นเครื่องดื่มและเพื่อดับกระหายแล้ว ยังมีสรรพคุณอื่น ๆ เช่น “ลดไขมัน แก้สร่างเมา” เป็นต้น ถือเป็นเครื่องดื่มพิเศษเพื่อสุขภาพ จากบันทึกในราชวงศ์ชิง “เปิ่น เฉ่า กังมู่ สืออี๋” ของจ้าว เสว่ หมิ่น นักปรุงยาชื่อดัง ก็ได้บันทึกไว้ว่า ชาผู่เออร์เป็นยาสมุนไพรจีนประเภทหนึ่ง
2. จากประวัติศาสตร์ ต้นกำเนิดดั้งเดิมของชาผู่เอ๋อร์อันลือชื่อ เริ่มมาจากเป็นศูนย์กระจายสินค้าชา เพื่อให้การผสมชามีส่วนช่วยในการปรับปรุงคุณภาพของชา ในประวัติศาสตร์เมื่อชาผู่เออร์ ถูกความร้อน ใบชาจะเกิดปฏิกิริยาและกลายเป็นชาที่คลาสิก การค้นพบชาดังกล่าวมาพร้อมกับศูนย์กระจายสินค้าชานั่นเอง
3. การผสมชาผู่เอ๋อร์มุ่งเน้นเพื่อ “ประโยชน์ในด้านความลงตัว” ระหว่างใบชาที่มีหลากชนิดและคุณภาพต่างกัน และเทือกเขาที่ปลูกชาที่ต่างกันใบชาสดที่ได้มาก็จะแตกต่างกัน รสชาติของชาก็แตกต่างกันไปด้วย ความแตกต่างกันนี้ไม่เพียงแต่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างทางปริมาณของสารที่ทำให้เกิดกลิ่นหอมของใบชา และยังสามารถแสดงให้เห็นถึงความแตกต่างเล็กน้อยของสารภายในของชาด้วย ทำให้สารบางชนิดในใบชาเกิดความแตกต่างกันด้วย ความแตกต่างที่พบได้จะทำให้เกิดประสิทธิภาพ และความเหมาะสมในด้านของ “การปรับโครงสร้าง” และ “บูรณาการ” ของสารที่มีอยู่ในชาซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้ผลิตภัณฑ์ชาผู่เอ๋อร์มีคุณภาพที่ดีขึ้น เป็นสิ่งที่คนรักการดื่มชาผู่เอ๋อร์ ใฝ่ฝันมาตลอดตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน
(การตัดสินความแตกต่างเหล่านี้และนำมาใช้เป็นประโยชน์เพื่อประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์ชาที่มีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น เป็นความใฝ่ฝันที่คนรักดื่มชาผู่เอ๋อร์พยายามใฝ่ฝันตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน)
4. ส่วนผสมของชาผู่เอ๋อร์ เกิดจากการบ่มเพาะตามธรรมชาติด้วยตัวเอง หลังขั้นตอนการหมักชา ผู่เอ๋อร์การหมักชาผู่เอ๋อร์ ต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการ ซึ่งถือว่าเป็นการหมักสสารของแข็ง จึงจำเป็นต้องมีการผลิตเป็นรูปทรง ชาแผ่นหลังการหมักบ่มจะต้องควบคุมปริมาตรความหนาแน่นของการบีบอัดชาแผ่น และต้องไม่อัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยากในการทำชาแผ่นให้ได้มาตรฐาน หากจะใช้วิธีทางฟิสิกส์ ใช้แม่พิมพ์เครื่องอัดต่างๆ ก็ไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ เพราะในใบชาล้วนเต็มไปด้วยใยไฟเบอร์ที่มีความยืดหยุ่น เวลาบีบอัดต้องใช้แรงอัดมาก แต่เมื่อผ่านไปช่วงระยะเวลาหนึ่งก็คืนรูปร่างเดิม วิธีที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหานี้ได้ คือ แบ่งระดับวัตถุดิบในการผสม เช่น ใช้ชาระดับเจ็ดทำ “โครงสร้างกระดูก” ใช้ชาระดับสามและระดับห้า ทำ“ส่วนเสริม” ด้วยวิธีโครงสร้างโครงกระดูกนี้ ทำให้ชาผู่เอ๋อร์ เกิดชั้นเลเย่อร์ขึ้น ส่งผลให้หลังการหมักบ่มแล้วชาจะมีปฏิกิริยาเปลี่ยนแปลงบ่มเพาะด้วยตัวมันเอง คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดเกี่ยวกับระดับลำดับชั้นของใบชา บางคนเข้าใจว่าเลือกใบชาสด ระดับประเภทยิ่งสูงยิ่งดี บางคนถึงขั้นแสวงหายอดต้นกล้าชาบริสุทธิ์ (ระดับเกรดเอ) มาทำชาแผ่น โดยลืมคิดไปว่ายอดต้นกล้าชาบริสุทธิ์มีปฏิกิริยาไวต่อแรงกด อันส่งผลให้ใยไฟเบอร์ในใบชาถูกจำกัดการพัฒนาอายุการบ่มเพาะด้วยตัวของมันเอง ในขณะเดียวกัน ยังมีความเชื่อที่ผิดอีกว่า วัตถุดิบของชาผู่เอ๋อร์ ยิ่งมีระดับเกรดสูง คุณค่าทางโภชนาการก็ยิ่งมีมากตามไปด้วย ในทางตรงกันข้าม วัตถุดิบเกรดต่ำ จะมีคุณค่าทางโภชนาการน้อยลงตามไปด้วย นี่เป็นเพราะการวิเคราะห์วิธีการการนำวัตถุดิบชาผู่เอ๋อร์ มาผลิตชาเขียวและชาประเภทอื่นๆ กับการวิเคราะห์วิธีการผลิตชาผู่เอ๋อร์ แบบดั้งเดิม มีความแตกต่างกันอย่างมาก
5. การผสมชาผู่เอ๋อร์มีศิลปะ ลักษณะสีสันเฉพาะตัวสูง ต้นตำรับผลิตภัณฑ์ชาผู่เอ๋อร์ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นชาเก่าแก่ที่สืบทอดต่อกันมาเป็นหลายร้อยปี หรือชาชนิดใหม่ในช่วงเวลากี่สิบปีมานี้ ล้วนมีลักษณะพิเศษของชาเฉพาะตัว ความเข้มข้นของสีชาที่แตกต่างกัน ทำให้ความรู้สึกในการลิ้มรสลุ่มลึกยากที่จะลืม ความรู้สึกหรือคุณภาพเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆกับ“วัตถุดิบแท้”และ “วัตถุดิบ一口料” ยิ่งไปกว่านั้นผู้ผลิตได้ใช้ภูมิปัญญาและประสบการณ์ที่ยาวนานในการผลิตด้วยเทคนิคการผสมอันเป็น“ผลงานยอดเยี่ยม”
คำถามที่พบบ่อย
กลุ่มความรู้และสรรพคุณชาผู่เอ๋อร์สุก และชาผู่เอ๋อร์ดิบ
เพื่อนๆถามว่า : คนเป็นเบาหวานควรดื่มชาประเภทไหน?
mr.puerh ตอบ : แนะนำเป็นชาผู่เอ๋อร์ ชนิด สุกครับผม เพราะว่า ในชาผู่เอ๋อร์สุก
เพราะมีทีโพลีฟีนอล เมื่อมันจับตัวกับน้ำตาลแล้วทำให้โมเลกุลมันใหญ่ขึ้น
ทำให้ลดการดูดซึมของโมเลกุลน้ำตาลได้
เพื่อนๆถามว่า : ดื่มแทนน้ำเลยได้หรือไม่
mr.puerh ตอบ : ได้ครับ สำหรับชาสุก เพราะ มีคาแฟอีน ต่ำหรือไม่มีเลย ทำให้สามารถดื่มได้ทั้งวันครับ
ส่วนชาดิบ จะยังมีคาแฟอีน ทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับการดื่มก่อนนอน
เพื่อนๆถามว่า : ชาผู่เอ๋อร์ดิบ เก็บไปนานๆเป็น 50 ปี จะเป็นชาผู่เอ๋อร์ดิบหรือไม่
mr.puerh ตอบ : คำถามนี้พบเจอได้บ่อยครับ หลังจากที่ผมไปสอบถามจากผู้ผลิตชาผู่เอ๋อร์แล้วได้คำตอบว่า
ชาผู่เอ๋อร์ดิบ เก้บให้เก่ายังไงก็เป็นชาผู่เอ๋อร์ดิบเก่าไม่มีทางเป็นชาผู่เอ๋อร์สุกได้เลย
เพราะกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ดังนั้น ชาผู่เอ๋อร์สุกก็คือชาผู่เอ๋อร์สุก
ชาผู่เอ๋อร์ดิบที่อายุเยอะมากๆก็คือชาผู่เอ๋อร์ดิบเก่า ครับ
>>> เข้าชมคำถามที่พบบ่อย <<<
หน้าที่เข้าชม | 334,704 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 150,205 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ก.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ก.ย. 2568 |