บทที่ 2
การประเมินชาผู่เอ๋อร์
ตอนที่ 1 วิธีการประเมินชาผู่เอ๋อร์
การประเมินชาผู่เอ๋อร์ตามปกติแล้วจะใช้วิธีการประเมินด้วยประสาทสัมผัส (คือประสาทสัมผัสด้านกลิ่นรสชาติรูปร่างและการสัมผัสที่ได้จากร่างกาย) คุณภาพของชาผู่เอ๋อร์คือคุณภาพด้านสีกลิ่นหอมรสชาติและรูปร่างของใบชาสำเร็จรูป (คุณภาพทางความรู้สึก) ที่แปรรูปจากใบชาสดนั้นคุณภาพดีหรือไม่ดีการแยกระดับใบชาและคุณค่าของใบชาก็ขึ้นอยู่กับผลการประเมินด้านรูปร่างสีน้ำชารสชาติและสภาพใบชาที่ชงไปแล้วเป็นหลัก
วิธีประเมินชาผู่เอ๋อร์ขั้นพื้นฐาน
กระบวนการประเมินชาผู่เอ๋อร์มีขั้นตอนดังนี้การประเมินใบชาแห้งการเก็บตัวอย่างชาการชงชาและการประเมินน้ำชาการประเมินใบชาแห้งและการประเมินน้ำชาเรียกง่ายๆว่าการประเมินแห้งและการประเมินเปียกการประเมินทางความรู้สึกจะถือผลการประเมินเปียกเป็นหลักผลการประเมินแห้งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการประเมินเปียกส่วนการเก็บตัวอย่างชาและการชงชานั้นก็สามารถประกันความถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ของการประเมินเปียก
1. การประเมินแห้ง
การประเมินแห้งจะประเมินคุณภาพของใบชาแห้งจากสี่ด้านได้แก่รูปร่างความครบถ้วนความบริสุทธิ์และสีของใบชา
(1) รูปร่าง
หมายถึงขนาดใบชารวมทั้งความใหญ่ความยาวความหนาและน้ำหนักของใบชาสำหรับชาทับแน่นต้องประเมินรูปร่างระดับความแน่นความสม่ำเสมอของผิวหน้าชาถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ชาทับแน่นที่มีสองชั้นยังต้องประเมินว่าชาชั้นผิวหน้าหลุดร่วงหรือไม่ชาชั้นในผุออกหรือไม่ด้วย
(2) ความครบถ้วน
ความครบถ้วนของชามีสองมาตรฐานคือหนึ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ชาที่มีใบชาสามชั้นใบชาทุกชั้นต้องมีสัดส่วนเสมอกันหรือไม่สองสำหรับใบชาชั้นใดชั้นหนึ่งต้องประเมินว่าใบชาชั้นนี้มีขนาดความยาวความหนาเสมอกันหรือไม่ความครบถ้วนของชาต้องประเมินสภาพโดยรวมถ้าเป็นใบชาสดมีรูปร่างธรรมชาติไม่หักก็ถือว่ารูปร่างดีถ้ามีใบชาหักเยอะก็ถือว่าไม่ดีถ้าเป็นชาแปรรูปก็ต้องประเมินว่าใบชาในทุกชั้นได้สัดส่วนที่ถูกต้องพอสมควรหรือไม่
(3) ความบริสุทธิ์
ระดับความบริสุทธิ์ของชาขึ้นอยู่กับปริมาณของส่วนประกอบที่ไม่ใช่ใบชา (กิ่งชาเมล็ดชาเป็นต้น) และของประเภทอื่น (เช่นหญ้าใบไม้เป็นต้น) ที่แซกอยู่ในใบชาถ้าไม่มีของที่ไม่ใช่ใบชาแทรกกันก็ถือว่าใบชามีความบริสุทธิ์สูงถ้ามีของที่ไม่ใช่ใบชาแทรกกันก็ถือว่าใบชามีความบริสุทธิ์ต่ำ
(4) สีและการสะท้อนแสง
การประเมินสีและการสะท้อนแสงของใบชาต้องประเมินจากระดับสีใบชาและระดับความสะท้อนแสงของใบชาระดับสีหมายถึงประเภทสีและความอ่อนความเข้มของสีการประเมินระดับสีของใบชาแห้งจะประเมินจากความอ่อนความเข้มของสีตามปกติแล้วใบชาแห้งที่มีระดับคุณภาพสูงสีใบชาแห้งก็จะเข้มส่วนใบชาที่มีระดับคุณภาพต่ำลงมาสีใบชาแห้งจะอ่อนกว่าตามลำดับส่วนระดับความสะท้อนสีของใบชาก็สามารถประเมินจากความชุ่มฉ่ำความสดใหม่และความสม่ำเสมอของใบชาใบชาที่ประเมินว่ามีสีสันของใบชาดีสีใบชาจะมันวาวส่วนใบชาที่ประเมินว่าสีแสงไม่ดีนั้นก็ดูเหมือนสีเทาเข้ม
สีอ่อนสีเข้มการประเมินสีใบชาข้อแรกก็คือต้องดูว่าเป็นสีปกติของประเภทใบชาประเภทนั้นๆหรือไม่ตามปกติแล้วผลิตภัณฑ์ชาที่ทำด้วยใบชาที่อ่อนนุ่มและเล็กสีใบชาจะเข้มกว่าแต่ถ้าเป็นผลิตภัณฑ์ชาที่ทำด้วยใบชาที่มีระดับคุณภาพต่ำกว่านั้นสีใบชาก็จะอ่อนกว่า
ชุ่มฉ่ำและแห้งชุ่มฉ่ำหมายถึงใบชาดูชุ่มฉ่ำเรียบเนียนสะท้อนสีได้ดีปกติแล้วถ้าชามีสีที่สดก็แสดงว่าชาทำด้วยใบชาสดๆและแปรรูปด้วยวิธีที่ถูกต้องสมควรเป็นสัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ชาที่มีคุณภาพดีแห้งหมายถึงใบชามีแต่สีแต่ไม่สะท้อนแสงหรือว่าระดับสะท้อนแสงไม่ค่อยดีก็เรียกว่าชาชนิดนี้แห้งส่วนใหญ่จะเป็นเพราะใบชาไม่สดหรือแปรรูปด้วยวิธีที่ไม่เหมาะสมถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชาที่มีคุณภาพที่ไม่ดี
สดหรือไม่สดสดหมายถึงสีใบชาสดใสเป็นเอกลักษณ์สีพิเศษของใบชาที่พึ่งเก็บมาใหม่ๆไม่สดหมายถึงใบชาสีเข้มและไม่มีความสะท้อนแสงดูหมองคล้ำส่วนใหญ่จะเป็นเพราะใบชาไม่สดหรือแปลงรูปหรือเก็บรักษาด้วยวิธีไม่เหมาะสมเป็นต้น
ความสม่ำเสมอหมายถึงสีของผลิตภัณฑ์ชาถ้าสีผลิตภัณฑ์มีของอย่างอื่นแทรกอยู่ในชาเช่นใบไม้สีเหลืองกิ่งไม้ก้านไม้แทรกอยู่ ก็ประเมินว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชาที่มีสีไม่สม่ำเสมอ
2. การใช้ปริมาณชา
การใช้ปริมาณชาเป็นขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่งในการประเมินชาผู่เอ่อร์ถ้าใช้ปริมาณไม่ได้สัดส่วนแม่นยำก็ไม่สามารถแสดงถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่ยิ่งประเมินผลิตภัณฑ์ชาที่มีปริมาณมากการใช้ปริมาณชายิ่งสำคัญดังนั้นใช้ปริมาณชาต้องดำเนินการตามวิธีที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
(1) ตวงตัวอย่างชาใบ
เตรียมตัวอย่างชาไว้ประมาน 200-300 กรัมซึ่งประกอบด้วยใบชาชนิดต่างกันสองถึงสามชนิดแล้ววางในจานหรือว่าภาชนะอย่างอื่นเป็นสามชั้นตามลำดับที่กำหนดไว้แล้วเอาหัวแม่มือนิ้วชี้และนิ้วกลางหยิบชาขึ้นมาอย่างน้อย 5 กรัมที่ต้องระวังคือชาที่หยิบขึ้นนั้นต้องมีใบชาทั้งสามส่วนด้วยแล้วค่อยๆวางตัวอย่างชาลงในตราชั่งจนปริมาณครบ 5 กรัม
(2) การตวงตัวอย่างชาอัดแผ่น
แซะชาลงตั้งแต่ขอบนอกสุดของแผ่นหรือกล่องชาแล้วค่อยๆขยายวงเข้าจนถึงศูนย์กลางของแผ่นชาหรือกล่องชาเมื่อแซะชาแล้วก็ตวงชาตามวิธีการตวงชาใบ
(3). การชง
เอาตัวอย่างชา 5 กรัมวางในแก้วประเมินชาที่มีปริมาณ 250ml ชงด้วยน้ำร้อนแล้วปิดฝารอ 5 นาทีแล้วเทน้ำชาออกในถ้วยน้ำชาถ้ามีผู้ประเมินหลายท่านต้องชงน้ำชาหลายแก้วเวลาเทน้ำชาก็ต้องเทออกตามลำดับการชงชาด้วย
แก้วและถ้วยประเมินน้ำชาปริมาณ 250ml
แก้วประเมินน้ำชาเป็นรูปกระบอกสูง76มม. เส้นผ่านศูนย์กลางขอบนอก 82มม. เส้นผ่านศูนย์กลางขอบใน 76 มม. ปริมาณ 250มล. มีฝาแก้วบนฝาแก้วยังมีรูเล็กรูหนึ่งในปากแก้วยังมีปากกรองน้ำชารูปคีมปากฉลามถ้วยประเมินน้ำชาลึก 5 มม.กว้าง 15 มม. สูง 60 มม. เส้นผ่านศูนย์กลางขอบนอกปากถ้วย 100 มม. เส้นผ่านศูนย์กลางขอบในปากถ้วย 95 มม. เส้นผ่านศูนย์กลางขอบนอกก้นถ้วย 65 มม. เส้นผ่านศูนย์กลางขอบในก้นถ้วย 60 มม. ปริมาณ 300มล.
(4). การประเมินเปียก
การประเมินเปียกจะประเมินคุณภาพชาจากสี่ด้านได้แก่กลิ่นหอมสีน้ำชารสชาติและใบชาที่ชงแล้ว
(1) กลิ่นหอม
กลิ่นหอมของน้ำชามาจากปัจจัยหลายประการเช่นประเภทต้นชาสถานที่ปลูกต้นชาฤดูกาลเก็บใบชาและวิธีการเก็บใบชาเป็นต้นดังนั้นชาประเภทต่างกันจึงมีกลิ่นหอมที่แตกต่างกันการประเมินกลิ่นหอมของชานอกจากต้องแยกประเภทของกลิ่นหอมแล้วยังต้องประเมินความบริสุทธิ์ความเข้มข้นและการคงความนานของกลิ่นหอมด้วย
ความบริสุทธิ์ของกลิ่นหอม
การประเมินความบริสุทธิ์ของกลิ่นหอมน้ำชาจะประเมินว่ากลิ่นหอมของน้ำชาเป็นกลิ่นหอมของชาประเภทนั้นแท้ๆกลิ่นหอมของชามี 3ประเภทได้แก่กลิ่นหอมประเภทชากลิ่นหอมประจำเขตและกลิ่นหอมเสริมกลิ่นหอมประเภทชาเป็นกลิ่นหอมของชาโดยเฉพาะเช่นกลิ่นหอมของชาผู่เอ่อร์กลิ่นหอมประจำสถานที่หมายถึงกลิ่นหอมน้ำชาบางอย่างเป็นกลิ่นหอมของใบชาที่ปลูกในสถานที่บางแห่งโดยเฉพาะเช่นกลิ่นดอกกล้วยไม้กลิ่นหอมผลไม้เป็นต้นกลิ่นหอมเสริมเป็นกลิ่นที่เสริมด้วยเทคนิคเช่นกลิ่นหอมดอกมะลิถ้าน้ำชาไม่มีกลิ่นของอย่างอื่นก็ประเมินว่ากลิ่นน้ำชาบริสุทธิ์ถ้าน้ำชามีกลิ่นอย่างอื่นแทรกด้วยเช่นกลิ่นควันกลิ่นเปรี้ยวเน่าและกลิ่นมันด้วยก็ประเมินว่ากลิ่นหอมน้ำชาไม่บริสุทธิ์
ความเข้มข้น
ความเข้มข้นของกลิ่นน้ำชาแบ่งเป็นหลายระดับได้แก่เข้มสดชื่นหอมละมุนดั้งเดิมธรรมดาและไม่มีกลิ่นเข้มหมายถึงกลิ่นหอมน้ำชาแรงให้ความรู้สึกกระตุ้นสูงสุดสดชื่นหมายถึงกลิ่นหอมของน้ำชาเหมือนอากาศที่สดชื่นดมแล้วรู้สึกสดชื่นหอมละมุนหมายถึงกลิ่นหอมน้ำชาไม่แรงเป็นกลิ่นหอมชื่นใจดั้งเดิมหมายถึงกลิ่นหอมของน้ำชาหอมธรรมดาแต่ไม่แรงและไม่มีกลิ่นอย่างอื่นแทรกด้วยธรรมดาหมายถึงกลิ่นหอมน้ำชาไม่ค่อยหอมแต่ไม่มีกลิ่นอย่างอื่น
ความยาว
หมายถึงการประเมินการคงความนานของกลิ่นหอมน้ำชาตั้งแต่น้ำชาร้อนจนถึงน้ำชาเย็นถ้ากลิ่นหอมน้ำชายังไม่หายก็ประเมินว่ากลิ่นหอมน้ำชายาวถ้ากลิ่นหอมอยู่ไม่นานก็ประเมินว่ากลิ่นหอมสั้น
การดมน้ำชาในอุณหภูมิต่างกันมีส่วนช่วยในการประเมินน้ำชาที่ต่างกันตามปกติแล้วการดมน้ำชาในเวลาร้อนเพื่อการประเมินความบริสุทธิ์ของกลิ่นหอมการดมน้ำชาเมื่อน้ำชาอุ่นก็เพื่อประเมินความเข้มข้นของกลิ่นหอมส่วนการดมน้ำชาเมื่อน้ำชาเย็นก็เพื่อประเมินการคงเวลานานของกลิ่นหอมน้ำชาเมื่อเวลาชาเย็นอุณหภูมิการดมน้ำชาที่ดีที่สุดคือ 55℃ถ้าอุณหภูมิสูงกว่า 65℃น้ำชาจะร้อนจัดทำให้จมูกรู้สึกไม่สบายแต่ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า30℃กลิ่นหอมของน้ำชาก็ดมไม่ค่อยชัดเจนจึงทำการประเมินยากนอกจากนี้การประเมินกลิ่นหอมน้ำชายังต้องหลีกเลี่ยงการกระทบจากสภาพแวดล้อมด้วยเช่นการสูบบุหรี่การใช้น้ำหอมและการล้างมือด้วยสบู่หอมเป็นต้นพฤติกรรมเหล่านี้ล้วนจะเกิดผลกระทบต่อผลการประเมินกลิ่นหอมของน้ำชาทั้งสิ้น
(2) สีน้ำชา
การประเมินสีน้ำชาประกอบด้วยการประเมินด้านประเภทสีน้ำชาความสะท้อนแสงของน้ำชาและความโปร่งใสของน้ำชาสีของน้ำชาจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาหากต้องการความแม่นยำในการประเมินควรทำทันทีที่หลังจากชงมิฉะนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของสีน้ำชาไม่ควรทิ้งไว้นานทำให้ไม่สามารถประเมินได้ถูกต้อง
ประเภทสี
สีของน้ำชามีความเกี่ยวข้องกับประเภทต้นชาและความแก่ความอ่อนของใบชาแต่สีน้ำชาจะแตกต่างกันโดยวิธีการแปรรูปชาที่ต่างกันเป็นหลัก
ระยะเวลาที่ทิ้งไว้หากต้องการประเมินไม่ควรทิ้งไว้มิฉะนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของสีน้ำชาจึงทำให้การประเมินไม่ถูกต้อง
ความสว่าง
ความสว่างหมายถึงระดับความสะท้อนแสงของน้ำชาถ้าน้ำชาสะท้อนแสงได้ดีสีน้ำชาดูสว่างสดใสก็ประเมินได้ว่าเป็นสีน้ำชาสว่างถ้าน้ำชาสะท้อนสีไม่ดีสีน้ำชาดูมืดก็ประเมินว่าสีน้ำชามืดถ้าสีน้ำชาสว่างแสดงว่าคุณภาพชาดีถ้าสีน้ำชามืดก็แสดงว่าคุณภาพชาไม่ดี
ความโปร่งใส
ความโปร่งใสหมายถึงการประเมินความบริสุทธิ์ของน้ำชาถ้าน้ำชาไม่มีของอย่างอื่นลอยอยู่สามารถมองเห็นก้นภาชนะได้ง่ายก็ประเมินได้ว่าน้ำชามีความโปร่งใสดีถ้าน้ำชามีของอย่างอื่นลอยอยู่ก็ประเมินได้ว่าน้ำชามีความโปร่งใสไม่ดี
(3) รสชาติ
รสชาติเป็นปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งของคุณภาพชาการที่น้ำชามีรสชาติที่แตกต่างกันก็เป็นเพราะว่าประเภทหรือสัดส่วนของสารเกิดรสในใบชาไม่เหมือนกันรสชาติน้ำชามีเปรี้ยวหวานเผ็ดขมเค็มสดและฝาดเป็นต้นการที่พวกเราสามารถสัมผัสรสชาติก็เป็นเพราะบนลิ้นของเราเต็มไปด้วยปุ่มสัมผัสรสชาติเมื่อปุ่มสัมผัสรสชาติได้สัมผัสกับน้ำชาความรู้สึกของรสชาติผ่านประสาทส่งถึงสมองเราก็สามารถรู้สึกถึงรสชาติน้ำชาได้ปุ่มสัมผัสรสชาติบนลิ้นสามารถสัมผัสถึงรสชาติที่ต่างกันเช่นส่วนที่ปลายลิ้นสามารถสัมผัสกับรสหวานง่ายที่สุดปุ่มสัมผัสส่วนด้านข้างลิ้นด้านหน้าสามารถสัมผัสกับรสเค็มง่ายสุดปุ่มสัมผัสปลายลิ้นด้านหลังสองข้างลิ้นสามารถสัมผัสกับรสเปรี้ยวง่ายสุดปุ่มสัมผัสบนกลางลิ้นสามารถสัมผัสดับรสฝาดง่ายที่สุดส่วนปุ่มสัมผัสรสบนโคนลิ้นก็สามารถสัมผัสกับรสขมง่ายสุดอุณหภูมิดื่มชาที่ดีที่สุดสำหรับการประเมินน้ำชาคือประมาณ 50℃การประเมินรสชาติน้ำชาต้องประเมินรสชาติเข้มหรือจืดหนาหรือบางเป็นรสชาติกลมกล่อมพอดีหรือธรรมดาถ้ารสชาติน้ำชามีสารอาหารหลายอย่างดื่มแล้วรู้สึกเหนียวและเข้มข้นก็ประเมินว่าเข้มถ้าตรงกันข้ามก็ประเมินว่าจืดแรงกับเบาแรงหมายถึงน้ำชาเข้าปากก็รู้สึกรสชาติหนาแน่นพอคายออกน้ำชารสชาติกลับเข้มข้นขึ้นก็ประเมินว่ารสชาติน้ำชาหนาถ้าตรงกันข้ามก็ประเมินว่ารสชาติน้ำชาเบากลมกล่อมรสชาติของน้ำชามีความเกี่ยวข้องกับกลิ่นหอมน้ำชาอย่างใกล้ชิดกลิ่นหอมบางอย่างที่ดมได้เมื่อประเมินกลิ่นหอมน้ำชาเช่นกลิ่นหอมดอกไม้กลิ่นหอมเกาลัดสดเป็นต้นตามปกติแล้วถ้าน้ำชามีกลิ่นหอมที่ดีแล้วก็จะมีรสชาติที่ดีด้วยผลการประเมินของ 2 อย่างนี้ยังสามารถเป็นไปได้
(4) ใบชาที่ชงแล้ว
เมื่อการประเมินรสชาติเสร็จแล้วก็เทใบชาที่ชงไปแล้วออกบนจานแล้วประเมินสภาพของใบชาจากความแก่อ่อนความเสมอกันและสีของใบชานอกจากปัจจัยเหล่านี้แล้วการคลี่ของใบชาก็เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการประเมินคุณภาพของชาด้วยการประเมินใบชาที่ชงแล้วต้องสังเกตดูว่าใบชาคลี่ในระดับไหนมีของอย่างอื่นแทรกด้วยหรือไม่ใบชาที่ดีเมื่อชงแล้วควรมีสีสดใสใบชาดูอ่อนนุ่มและใบชาหนาและไม่ควรคลี่ออกจนเกินไป
ศัพท์เฉพาะในการประเมินชาผู่เอ๋อร์
ศัพท์ที่ใช้ในการประเมินชาผู่เอ๋อร์เป็นปัจจัยสำคัญมากประการหนึ่งในการประเมินชาผู่เอ๋อร์การใช้ศัพท์ประเมินที่ถูกต้องเหมาะสมก็เป็นเทคนิคพื้นฐานในการประเมินชาผู่เอ๋อร์เพื่อจะใช้ศัพท์ประเมินที่ถูกต้องเหมาะสมก็ต้องเข้าใจความหมายของคำศัพท์เหล่านี้ให้ชัดเจนก่อนตามกระบวนการการประเมินศัพท์เฉพาะการประเมินชาผู่เอ๋อร์สามารถแบ่งออกเป็น 5 ด้านได้แก่ศัพท์ด้านรูปร่างสีน้ำชากลิ่นหอมรสชาติและใบชาที่ชงไปแล้วด้วย
1. ศัพท์เฉพาะด้านรูปใบชาและผิวหน้าชาทับแน่น
เรียบร้อย หมายถึง ใบชามีรูปร่างใบชาธรรมดาไม่มีที่หักเสีย
ระดับความแน่นพอดีสำหรับผลิตภัณฑ์ชาทับแน่น หมายถึง ระดับทับพอดี
แตกแยก หมายถึง ผิวหน้าผลิตภัณฑ์ชาทับแน่นมีการแตกแยก
เรียบสม่ำเสมอ หมายถึง ผิวหน้าผลิตภัณฑ์ชาทับแน่นเรียบไม่มีการแตกแยกหลุดร่วงและมีก้านชาผุดออกมาถ้ามีก็เรียกว่าผิวหน้าชาหยาบ
ปากเสีย หมายถึง ผิวหน้าผลิตภัณฑ์ชาทับแน่นมีส่วนหักส่วนเสีย
หลวม หมายถึง ชาทับแน่นเวลาทับทับไม่แน่นทำให้แผ่นชาหรือกล่องชาดูหลวมรูปร่างไม่เรียบร้อย
คลี่คลาย หมายถึง ใบชาม้วนได้ไม่แน่น
เอียงขอบหลุมด้านหลังของชาไม่สม่ำเสมอ
รู หมายถึง รูบนศูนย์กลางผิวหน้าชาแผ่นกลมและชาก้อนกลมที่เกิดจากการทับแน่นด้วยแรงมากเกินไป
ผิวหน้าหลุดล่วง หมายถึง ผิวหน้าของชาทับแน่นหลุดล่วงลงมา
ยอดชา หมายถึง ยอดใบชาที่อ่อนและมีไรขน
ใบเดี่ยว หมายถึง ใบชาใบเดี่ยวซึ่งมีทั้งใบอ่อนและใบแก่ลักษณะใบชาจะใหญ่และไม่ค่อยนุ่ม
ก้านอ่อน หมายถึง ก้านอ่อนที่ยังไม่แข็ง
ก้าน หมายถึง ก้านไม้ที่ค่อนข้างแข็งและมีใบไม้อยู่ด้วย ส่วนมากจะหมายถึงก้านที่เป็นสีเขียว
สีเลือดหมู หมายถึง เป็นสีใบชาเป็นสีแดงมืดดูเหมือนสีเลือดหมู
น้ำตาลดำ เป็นสีน้ำตาลออกสีดำ
ดำชุ่ม เป็นสีดำแก่ๆดูชุ่มชื้นและสว่างใสเหมือนได้ทาน้ำมันชั้นหนึ่งด้วย
สีน้ำตาลเข้มเป็นสีน้ำตาลแต่ออกสีเทานิดหน่อย
น้ำตาลแดง เป็นสีแดงออกสีน้ำตาล
แถบปลาหนีชิว หมายถึงรูปแถบชาที่ม้วนจากใบชาแถบชาใหญ่และตรงเหมือนรูปร่างของปลาเลนชนิดหนึ่งของจีนเรียกว่าหนีชิวจึงเรียกแถบชาแบบนี้ว่า แถบปลาหนีชิว
แถบคาบเกี่ยว หมายถึง แถบชาที่หักหรือคาบทับกัน
แข็งแรงสมบูรณ์ หมายถึง แถบชาแข็งแรงและสมบูรณ์
ขนเล็กสีทอง หมายถึง ขนชาสีทองที่อยู่บนยอดใบชา
ดำมืดสีดำและไม่สว่างมืด
น้ำตาลดำสีน้ำตาลออกดำดูสว่าง
ขนเล็กเห็นชัด หมายถึง ขนเล็กๆบนยอดใบชาเยอะจนเห็นได้ชัด
แหลมยอดใบชา หมายถึง ยอดใบชาที่อ่อนเบาม้วนได้แน่นจนแถบชาที่ม้วนออกมีแหลมด้วย
หนัก หมายถึง แผ่นหรือกล่องชามีน้ำหนัก วางบนมือแล้วมีน้ำหนัก
เบา หมายถึง แผ่นชาหรือกล่องชามีน้ำหนักน้อย
หยาบหลวม หมายถึง ใบชาที่ไม่ค่อยอ่อนทับไม่แน่นและดูรูปร่างแผ่นหรือกล่องชาหลวมๆ ไม่เรียบร้อย
2. ศัพท์เฉพาะด้านรสชาติ
บริสุทธิ์และเก่า หมายถึง น้ำชาที่มีรสชาติของชาแท้ๆไม่มีรสอย่างอื่นและยังมีรสชาติชาเก่าที่เก็บไว้เป็นช่วงเวลาหนึ่งด้วยไม่มีกลิ่นเหม็นอับ
ปกติ หมายถึง รสชาติน้ำชาตามปกติรสไม่แรงมาก
เข้มข้นในระดับธรรมดา หมายถึง รสชาติน้ำชาเข้มข้นเป็นธรรมดามีรสหวานนิดหน่อย
เข้มข้นในระดับปานกลาง หมายถึง รสชาติน้ำชาเข้มข้นและรู้สึกหนักหนาด้วยดื่มแล้วรสชาติหายไม่ง่าย
เข้มข้นมาก หมายถึง รสชาติน้ำชาแรงมากพอน้ำชาถึงลำคอเกิดรสหวานกลับค่อนข้างนาน
รสหวานกลับหมายถึง เมื่อดื่มน้ำชาเข้าไปจะเกิดรสหวานในโคนลิ้นและลำคอลำคอยังจะรู้สึกชุ่มฉ่ำด้วย
สดชื่น หมายถึง รสชาติน้ำชาดื่มแล้ว ปากจะรู้สึกสดชื่น
รสน้ำ หมายถึง รสน้ำชาจืดดื่มเข้าไปเหมือนดื่มน้ำเปล่า
ธรรมดา หมายถึง รสชาติน้ำชาเบารสชาติหายได้เร็ว
ฝาด หมายถึง น้ำชาไม่ค่อยมีรสชาติของชากลับมีรสฝาดของหญ้ามากกว่า
ขมสุดท้าย หมายถึง น้ำชาพึ่งดื่มเข้าไปก็เกิดรสขมแต่พอดื่มไปนานเข้าก็ยิ่งขมด้วย
3. ศัพท์เฉพาะด้านสีน้ำชา
สีเหลืองนุ่ม หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีทองแต่ออกขาวเล็กน้อย
สีเหลืองเขียว หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีเหลืองอมเขียว
สีเขียวเหลือง หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีเขียวอมเหลือง
สีเหลืองอ่อน หมายถึง น้ำชามีสารต่างๆไม่มากสีน้ำชาเป็นสีเหลืองแต่สีเบาๆ
สีเหลืองสว่าง หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีเหลืองและดูสว่างด้วย
สีเหลืองส้ม หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีเหลืองอมเเดง
สีส้มแดง หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีแดงอมเหลือง
สีเหลืองแก่ หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีเหลืองแก่และสีดูมืดไม่สว่าง
สีแดงออกน้ำตาล หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีแดงอมน้ำตาล
สีน้ำตาลออกแดง หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีน้ำตาลอมเเดง
สีแดงแก่ หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีแดงแก่และสีดูมืดไม่สว่าง
สดใสสว่าง หมายถึง สีน้ำชาโปร่งใสดูสดใสไม่มีตะกอน
ขุ่น หมายถึง น้ำชาไม่โปร่งใสมีสารเเขวนลอย
มืด หมายถึง น้ำชาไม่สว่างแต่ไม่มีสารลอย(การประเมินประโยชน์นี้ก็ใช้ในการประเมินใบชาที่ชงไปแล้วได้ด้วยหมายถึงสีใบชามืดไม่สว่าง)
แดงขุ่น หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีแดงแต่มีตะกอนเยอะจนมองไม่เห็นก้นภาชนะ
แดงเข้ม หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีแดงและมีสารต่างๆเยอะ
แดงเกาลัด หมายถึง สีน้ำชาเป็นสีแดงอบน้ำตาลเข้ม จะเป็นสีของใบชาผู่เออร์สุกที่ชงเเล้ว
4. ศัพท์เฉพาะด้านกลิ่นหอม
หอมแรงกล้า หมายถึง กลิ่นหอมกร่ำกรุ่นและคงความหอมได้เวลานาน
หอมยอดชา หมายถึง กลิ่นหอมของยอดชา
แรงเข้ม หมายถึง กลิ่นหอมคงเวลานานและให้ความรู้สึกกระตุ้น
กลิ่นคาราเมล หมายถึง ในขั้นตอนการหมักออกซิเจนทำปฏิกิริยากับน้ำตาลของชาจึงทำให้เกิดกลิ่นคาราเมล
หอมเบา หมายถึง กลิ่นหอมเบาๆแต่คงเวลานาน
หอมระเรื่อ เป็นกลิ่นหอมเข้มข้นแต่กลิ่นมันเบาๆเหมือนลอยในอากาศ
หอมหวาน หมายถึง กลิ่นหอมไม่แรงแต่มีกลิ่นหวานนิดหน่อย
หอมประเภทดอกไม้ผลไม้ หมายถึง กลิ่นหอมคล้ายๆกลิ่นดอกไม้หรือผลไม้สุก
หอมน้ำตาลคาราเมล หมายถึง กลิ่นหอมเป็นแบบกลิ่นน้ำตาลคาราเมลเนื่องจากการตากแห้งอย่างเต็มที่หรือการตากแห้งด้วยไฟแรง
5. ศัพท์เฉพาะด้านใบชาที่ชงแล้ว
สีน้ำตาลแดงเป็นสีน้ำตาลออกแดงเป็นสีของใบชาสุกที่ผ่านการหมักในระดับสูง
สีเเดงน้ำตาล เป็นสีเเดงอมน้ำตาล เป็นสีของใบชาเเห้งก่อนการหมักหลังหมักสีจะเข้มกว่าสีตับหมู
สีเหลืองเขียว หมายถึง สีใบชาเป็นสีเหลืองอมเขียว
สีเขียวเหลืองหมายถึง สีใบชาเป็นสีเขียวอมเหลือง
ซับซ้อนหมายถึงใบชาที่ชงไปแล้วไม่ใช่ใบชาสีเดียวกันหรือว่าไม่ใช่มีแต่ใบชาอย่างเดียวยังมีกิ่งชาก้านไม้ชาแทรกด้วย
ใบชาอ่อนสม่ำเสมอ หมายถึง ใบชาที่ชงไปแล้วมีใบชาอ่อนเสมอ
อ่อนนุ่ม หมายถึง ใบชาที่ชงไปแล้วเป็นชาที่ทั้งอ่อนและนุ่ม
เมื่อสามารถใช้คำศัพท์ดังกล่าวนี้ได้อย่างถูกต้องแล้วก็สามารถทำการประเมินชาผู่เอ๋อร์ได้อย่างแม่นยำแต่มีข้อสังเกตที่ต้องระมัดระวังในการใช้ศัพท์ต้องเข้าใจความแตกต่างในระดับของศัพท์อย่างชัดเจนด้วย
ตอนที่2ทักษะด้านการประเมินชาผู่เอ๋อร์
ทักษะที่สำคัญที่สุดของการประเมินชาผู่เอ๋อร์คือต้องรู้จักและแยกเเยะระดับของคุณภาพด้านสีกลิ่นรสชาติและรูปร่างของชาได้ถูกต้องแม่นยำแต่การประเมินชาผู่เอ๋อร์ชนิดหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องรู้จักกับปัจจัยภายนอกของชาเช่นประวัติศาสตร์ของชาเอกลักษณ์ของสถานที่ปลูกชาวิธีการแปรรูปชาสภาพแวดล้อมเก็บชาเป็นต้นแล้วยังต้องคำนึงถึงวิธีชงชาสภาพแวดล้อมการดื่มชาด้วยจริงๆแล้วชาผู่เอ๋อร์ทุกชนิดก็มีประกาศนียบัตรของตนด้วยนั่นก็คือคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของมันเองดังนั้นกระบวนการประเมินชาผู่เอ๋อร์ก็เป็นวิธีการที่ทำให้รู้จักชาผู่เอ๋อร์ที่ดีเช่นกัน
การประเมินชาผู่เอ๋อร์ด้านรูปร่าง
การประเมินรูปร่างของชาผู่เอ๋อร์เน้นการประเมินในสี่ด้านรูปทรงชาแถบชาสีใบชาและกลิ่นหอมใบชาด้วย
1. รูปทรงชา
การประเมินรูปใบชาต้องประเมินว่ารูปทรงชาเรียบร้อยหรือเปล่าความอ่อนของยอดชาสีของชาถ้าเป็นชาทับแน่นยังต้องประเมินระดับแน่นของผลิตภัณฑ์ชาและผิวหน้าของชาหลุดร่วงหรือเปล่าด้วย
2. ส่วนขอบของใบชา
แถบชาที่ม้วนได้แน่นความใหญ่เล็กเสมอกันรูปร่างเรียบร้อยก็ประเมินว่าเป็นแถบชาที่มีคุณภาพดีถ้าแถบชาที่สั้นหักม้วนไม่แน่นนั้นก็ประเมินว่าเป็นแถบชาที่มีคุณภาพไม่ดี
การที่แถบชาสั้นและหักก็เป็นเพราะไม่ได้แปรรูปด้วยวิธีถูกต้องถ้ามีเยอะก็แสดงว่าเป็นชาระดับต่ำถ้าใบชาค่อนข้างหยาบก็เป็นเพราะม้วนใบด้วยแรงมากเกินหรือว่าใช้ใบชาแก่แห้งมาทับแตกแล้วแทรกในกลุ่มชาอ่อน ถ้าแถบชาม้วนแน่นส่วนมากจะเป็นแถบชาที่ทำด้วยใบชาที่ปลูกในที่ราบและม้วนด้วยแรงมากเกินไปถ้าแถบชาหลวมส่วนมากเป็นแถบชาที่ทำด้วยใบชาที่ปลูกบนภูเขาและม้วนด้วยแรงไม่มากพอชาผู่เอ๋อร์แผ่นกลมที่มองเห็นแถบชาอย่างชัดเจนเป็นแผ่นชาที่สวยงามสำหรับความอ่อนของชาและคุณภาพของชาเป็นอย่างไรก็สามารถประเมินจากสภาพแถบชาได้
แถบชาหลวมแถบชาแน่น
3. สี
สีของชาสามารถแสดงถึงระดับความอ่อนฤดูกาลและระดับหมักบ่มของชาสำหรับชาดิบชาที่เก็บในฤดูใบไม้ผลิจะเป็นสีเขียวสีใบชาสว่างเรียบมันวาวชาที่เก็บในฤดูร้อนสีใบชาจะออกสีดำและดูมืดส่วนใบชาที่เก็บในฤดูใบไม้ร่วงนั้นสีใบชาก็จะออกเหลืองแต่ดูสว่างชาที่มีระดับความอ่อนสูงสีใบชาจะเป็นสีเขียวและดูสว่างสดใสส่วนชาแก่ก็ออกสีเหลืองและดูมืดสำหรับชาที่ผ่านการหมักบ่มเป็นเวลานานที่ต่างกันนั้นชาที่ผ่านการหมักบ่มไม่นานสีใบชาจะออกเขียวถ้าเป็นชาที่ผ่านการหมักบ่มนานก็จะออกสีน้ำตาลการประเมินสีใบชาแห้งเป็นกระบวนการที่สำคัญมากประการหนึ่งของการประเมินชาผู่เอ๋อร์เพราะผู้ประเมินสามารถประเมินระดับความอ่อนฤดูที่เก็บชาและเวลาหมักบ่มของชาในระดับขั้นต้นสินค้ารุ่นต่างกันสีใบชาแห้งก็ต่างกันสินค้ารุ่นเดียวกันที่เก็บไว้เป็นเวลานานไม่เท่ากันนั้นสีใบชาแห้งก็จะเป็นสีที่ต่างกัน
4. กลิ่นหอม
กลิ่นหอมที่ระบุที่นี่หมายถึงกลิ่นหอมใบชาแห้งแม้ว่ากลิ่นหอมของใบชาแห้งไม่เข้มข้นแต่ถ้าดมให้ละเอียดแล้วก็สามารถแบ่งแยกชนิดของชาได้หลายกลิ่นการดมกลิ่นใบชาแห้งสามารถประเมินว่ากลิ่นชามีกลิ่นอย่างอื่นแทรกด้วยหรือเปล่ากลิ่นชาเป็นกลิ่นหมักบ่มหรือกลิ่นชาแก่ที่เก็บไว้นานถ้าชามีกลิ่นควันหรือกลิ่นเสียก็สามารถประเมินออกโดยการดมกลิ่นชาแห้งได้สินค้าชาที่มีกลิ่นหอมดอกไม้และกลิ่นหอมน้ำตาลนั้นก็สามารถประเมินออกโดยผ่านการดมกลิ่นชาแห้งนอกจากนั้นถ้าชามีกลิ่นน้ำหรือกลิ่นเน่าก็สามารถประเมินออกได้โดยการดมกลิ่นชาด้วยผลิตภัณฑ์ชาผู่เอ๋อร์มีหลายรุ่นหลายชนิดการดมกลิ่นชาแห้งสามารถช่วยแบ่งแยกประเภทผลิตภัณฑ์เป็นประเภทใหญ่ๆก่อนแล้วค่อยประเมินอย่างละเอียดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดไหนในการประเมินน้ำชา
การประเมินรสชาติของชาผู่เอ๋อร์
รสชาติของชาผู่เอ๋อร์ปกติมีรสชาติหวานขมฝาดเปรี้ยวสดใหม่ความรู้สึกทางปากเช่นลื่นคอ สดชื่นหนาบางและฝืดและรสชาติในลำคอเช่นหวานกลับชุ่มฉ่ำลำคอและชุ่มลิ้นความรู้สึกด้านรสชาติเหล่านี้ประกอบเป็นรสชาติของชาผู่เอ๋อร์
รสชาติ
หวาน
รสหวานเป็นรสที่รับได้ง่ายที่สุดสำหรับคนเราปุ่มสัมผัสรสชาติที่สัมผัสรสหวานง่ายสุดอยู่บนห่อลิ้นแต่รสหวานของชาผู่เอ๋อร์ไม่เหมือนรสหวานของอาหารหรือผลไม้เป็นรสหวานบางเบานุ่มนวลหวานแต่ไม่เลี่ยนชาผู่เอ๋อร์เป็นชาที่เก็บไว้จากต้นชาชนิดใบใหญ่มีสารที่อยู่ในใบชาที่หลากหลายแต่โดยผ่านการหมักบ่มเป็นเวลานานรสขมของชาก็ค่อยๆหายไปตามการออกซิเดชันแต่คาร์โบไฮเดรต carbohydrate ในใบชาผ่านการ hydrolyze หรือ schizolyze จนกลายเป็น oligosaccharide ซึ่งยังอยู่ในชานั้นเมื่อชงไปแล้วก็จะเกิดรสหวานขึ้นชาผู่เอ๋อร์ที่ผ่านการหมักบ่มนั้นยิ่งชงไปหลายครั้งรสขมก็ยิ่งเบาลงแต่รสหวานจะกลับเข้มข้นขึ้น
ในบรรดาสินค้าชาระยะแรกของโรงงานผลิตชาเหมิ่งไห่นั้นชาแผ่นกลมดอกบัวสีแดงมีรสหวานอ้อยเมื่อดื่มเข้าไปจะรู้สึกรสหวานค้างอยู่ในปากนาน
ขม
เป็นที่รู้กันว่ารสขมเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของชาในสมัยโบราณผู้คนก็เรียกชาว่า “ชาขม” ก็เพราะเหตุนี้แหละตำแหน่งลิ้นที่สัมผัสรสขมได้ง่ายที่สุดคือโคนลิ้นสำหรับการสัมผัสรสขมก็มีคำว่า “ขมกลับ” ด้วยหมายความว่ารสขมค้างในปากนานๆไม่หายทำให้ผู้ดื่มรู้สึกไม่ค่อยสบาย
การที่ชาผู่เอ๋อร์มีรสขมเพราะชาผู่เอ๋อร์มีสารที่เกิดรสขมเช่นคาเฟอินซาโปนิน (saponin) โพฟีนอลเป็นต้นปริมาณของสารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญต่อระดับรสขมของชาชามีองค์ประกอบของสารคาเฟอินอย่างสูงมากเป็น 1-2 เท่าตัวของปริมาณสารคาเฟอินที่อยู่ในเมล็ดกาแฟแม้ว่าชามีองค์ประกอบของสารซาโปนิน(saponin) น้อยแต่สารซาโปนิน (saponin) เกิดรสขมอย่างแรงส่วนสารโพฟีนอลนั้นแม้จะเกิดรสขมเป็นหลักแต่ยังเกิดรสฝาดและหวานกลับด้วย
การที่ชามีรสขมยังเกี่ยวข้องกับเวลาที่เก็บไว้ชาที่เก็บไว้ไม่นานจะมีรสขมแรงกว่าและเข้มข้นด้วยเมื่อเก็บไว้เป็นเวลานานแล้วรสขมก็ค่อยๆหายไปและเกิดรสหวานกลับขึ้นวิธีการชงชาก็มีบทบาทสำคัญต่อระดับรสขมของชาผู่เอ๋อร์เป็นอย่างมากถ้าวางชาในปริมาณที่เหมาะสมเทน้ำชาออกในเวลาที่เหมาะสมและดื่มชาในอุณหภูมิที่เหมาะสมถึงได้รสขมแท้ๆของชาถ้าวางชาในปริมาณมากเกินไปหรือเทน้ำชาออกช้าก็จะทำให้น้ำชาขมเกินไปตรงกันข้ามรสขมของน้ำชาจะเบาบางเกินไป
การประเมินรสชาติของชาผู่เอ๋อร์รสขมเป็นรสชาติที่สัมผัสง่ายเมื่อดื่มน้ำชาเข้าปากก็จะสัมผัสกับรสขมแล้วรสขมจะค่อยๆหายไปเมื่อได้สัมผัสรสฝาดรสขมก็หายหมดแล้วชาชนิดต่างกันจะมีรสขมระดับต่างกันคงเวลานานไม่เท่ากันชาชนิดเดียวกันรสขมของทุกครั้งก็ต่างกันด้วยถ้าสามารถประเมินรสขมได้อย่างชัดเจนก็สามารถแบ่งแยกชนิดชื่อวัตถุดิบวิธีการแปรรูปและสรรพคุณของชาโดยรสขมของชาได้
ฝาด
คนเราพูดกันบ่อยว่า “ขมกับฝาดเกิดคู่กัน” รสขมและรสฝาดเหมือนฝาแฝดเกิดมาคู่กันรสฝาดก็เป็นรสดั้งเดิมของชามีขมมีฝาดแล้วจึงจะมีหวานและความรู้สึกชุ่มคอได้ตำแหน่งที่สัมผัสรสฝาดได้ง่ายที่สุดในปากคือตุ่มรับรสชาติและเยื่อบุในช่องปากรสฝาดจะให้ความรู้สึกว่าตุ่มรับรสชาติหนาขึ้นเยื่อบุในช่องปากใหญ่ขึ้นด้วยเหมือนมีอะไรบางอย่างบนตุ่มรับรสชาติ
การที่เกิดรสฝาดเป็นเพราะชามีองค์ประกอบของโพฟีนอลชาผู่เอ๋อร์ใช้ใบชาสดของต้นชาใบใหญ่ในมณฑลยูนนานเอกลักษณ์ประการหนึ่งของต้นชาชนิดนี้ก็คือมีองค์ประกอบของสารเอสเตอร์คาเทชินในปริมาณสูงสารเอสเตอร์คาเทชินสามารถเกิดการ complexation กับโปรติน (protein) ในเซลล์ของชาจึงเกิดรสฝาดเมื่อเวลาผ่านไปสารเอสเตอร์คาเทชินจะค่อยๆเกิดออกไซด์รสฝาดก็จะค่อยๆหายไปด้วยน้ำชาจะรู้สึกเรียบกว่า
ชาผู่เอ๋อร์สามารถแบ่งเป็นประเภทแข็งและประเภทนุ่มตามระดับรสขมและรสฝาดของชาน้ำชาขมและฝาดแรงจัดรสหวานก็แรงขึ้นก็เป็นชาผู่เอ๋อร์ประเภทแข็งน้ำชามีรสขมและรสฝาดไม่แรงรสหวานกลับนุ่มนวลเบาบางก็เป็นชาผู่เอ๋อร์ประเภทนุ่ม
ชาที่ต่างกันจะมีระดับรสฝาดและรสขมที่ต่างกันด้วยชาที่เก็บในฤดูใบไม้ผลิรสฝาดและรสขมก็จะแรงจัดแต่เวลาที่รสค้างอยู่จะแตกต่างกันตามชนิดที่ต่างกันชาที่เก็บในฤดูร้อนจะออกรสขมมากกว่าส่วนชาที่เก็บในฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะออกรสฝาดมากกว่าชาที่เก็บในภูเขาปู้หลั่งทั้งรสขมและรสฝาดก็แรงจัดแต่จะออกรสขมมากกว่ารสฝาดเบากว่าชาที่ปลูกบนภูเขาปาต๋ามีรสฝาดแรงกว่าแต่รสขมเบากว่าชาที่เก็บในเมิ่งคู่ทั้งรสขมและรสฝาดไม่แรงจัดและไม่เบาแถมยังมีรสหวานที่ชัดเจนส่วนชาที่เก็บในภูเขายี่อู๋นั้นจะมีทั้งรสฝาดและรสหวานที่เบาบาง
เปรี้ยว
ไม่ว่าชาดิบหรือชาสุกก็อาจมีรสเปรี้ยวแต่ถ้ามีรสเปรี้ยวก็แสดงว่าคุณภาพของสินค้าไม่ดีรสเปรี้ยวเป็นรสที่สัมผัสง่ายซึ่งจะทำให้แก้มสองด้านของฟันตึงการที่ชาผู่เอ๋อร์เกิดรสเปรี้ยวมีเหตุผลทางสามด้านเป็นหลักได้แก่ (1) ในกระบวนการแปรรูปใบชาสดที่ตากแห้งแล้วเนื่องจากใบชาที่ม้วนเสร็จนั้นไม่ได้เอาไปตากแห้งทันเวลาทำให้ใบชาเก็บไว้นานเกินไปจนขึ้นราจึงเกิดรสเปรี้ยว (2) ในกระบวนการหมักบ่มเนื่องจากไม่ถูกต้องการจัดประเภทเชื้อจุลินทรีย์ (microorganism) และอุณหภูมิหมักบ่มไม่ถูกต้องทำให้สารประเภทน้ำตาลในชาเกิดการ glucolysis และเกิดรสเปรี้ยวขึ้นมา (3) การเก็บรักษาถ้าการเก็บรักษาชาในที่ที่ระดับความชื้นในอากาศสูงเกินไปก็จะทำให้ชาเน่าเสียและเกิดรสเปรี้ยวด้วย
สดใหม่
รสชาติสดใหม่จะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกสดใหม่ซึ่งสัมผัสได้ชัดเจนเมื่อดื่มชาที่เก็บในฤดูใบไม้ผลิหรือใบชาที่ค่อนข้างอ่อนรสสดสัมผัสได้ง่ายที่สุดก็คือในน้ำแกงปลาหรือน้ำแกงไก่ตำแหน่งที่สัมผัสรสสดได้ง่ายที่สุดของลิ้นคือบริเวณโคนลิ้นรสสดมีรสหวานแทรกกันนิดๆหน่อยๆเบาบางนุ่มนวล
การที่เกิดรสสดคือสารกรดอะมิโนอิสระ (free amino acid) และสารทีฟาวิน (Theaflavin) ในน้ำชามีสารละลายเเละสารเปปไทด์ (peptide) บิวคลีโอไทด์เเละโซเดียมเป็นต้นสารที่เกิดรสสดในใบชาคือสารประเภทอะมิโนซึ่งยังมีปริมาณมาก
ชาผู่เอ๋อร์ที่ใช้ใบชาที่เก็บในฤดูใบไม้ผลิหรือใบชาอ่อนนั้นจะมีรสสดชัดเจนมากเมื่อดื่มเข้าไปก็รู้สึกสดใหม่ชื่นใจใบชาของต้นชาใบใหญ่จะมีรสสดแรงกว่าใบชาของต้นชาในที่ราบดังนั้นเวลาประเมินชาผู่เอ๋อร์พวกเราก็สามารถแบ่งแยกประเภทของชาโดยรสสดได้ด้วย
ความรู้สึกทางปาก
ความรู้สึกทางปากและรสชาติมีความแตกต่างรสชาติที่ได้กล่าวไปข้างต้น หมายถึงความรู้สึกของลิ้นเมื่อสัมผัสกับน้ำชาเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างชัดเจน ยังมีความคล้ายกันกับอาหารในชีวิตประจำวันจึงสัมผัสได้ง่ายแต่ความรู้สึกทางปากเป็นความรู้ที่ซับซ้อนกว่าต้องประเมินบนพื้นฐานของรสชาติดังกล่าวด้วย
ความรู้สึกทางปากของน้ำชานอกจากเกี่ยวข้องกับโครงสร้างสารต่างๆในใบชาแล้วยังรับอิทธิพลจากปัจจัยด้านมวลต่อหน่วยปริมาตรความหนาแน่นความเหนียวแน่นความใสความชันและอุณหภูมิเป็นต้นต้องเข้าใจปัจจัยต่างๆของชาให้ดีจึงจะประเมินรสชาติของชาได้ถูกต้อง
สำหรับผู้ประเมินชาผู่เอ๋อร์ผู้ที่มีความรู้และเข้าใจการรับรสทางปากได้ดีเป็นทักษะที่สำคัญมากเพราะความรู้สึกทางปากสามารถแสดงให้รู้วัตถุดิบเทคนิคแปรรูปและสภาพการเก็บรักษาของชาจากประเมินรสชาติก็เป็นชื่อเสียงของชาส่วนความรู้สึกทางปากก็เสมือนประวัติการศึกษาหรือประวัติการทำงานของชาเพราะเราสามารถรู้ว่าชาชนิดนี้มาจากไหนและสถานะขณะนี้เป็นอย่างไร
ลื่นคอ
ถ้าพูดในด้านความรู้สึกแล้วความรู้สึกเปรียบเหมือนกับว่ามีน้ำสายเล็กไหลผ่านลิ้นเข้าสู่ลำคอน้ำชาที่เรียบนอกจากจะชุ่มลิ้นหยุดหิวน้ำยังจะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกผ่อนคลาย
การที่น้ำชาเกิดความรู้สึกเรียบมีความเกี่ยวข้องกับโครงสร้างและความเข้มข้นของสารภายในชาอย่างแยกกันไม่ออกปัจจัยที่เกิดความรู้สึกเรียบของชาได้แก่องค์ประกอบของสารขัณฑสกรที่ละลาย (soluble saccharide) ได้สารน้ำตาล oligosaccharide และเพคติน (pectin) ในชาสารเหล่านี้บางอย่างเป็นสารประกอบเดิมของชาบางอย่างเป็นสารที่เกิดจากกระบวนการแปรรูปชาและการเก็บรักษาชาสารขัณฑสกร (saccharides) ในชามีบทบาทปรับรสชาติน้ำชาใน 2 ด้านดังนี้ 1). จะทำให้น้ำชาหวานนุ่มนวลกลมเกลียว 2). จะยกระดับความเหนียวแน่นของน้ำชาสารประเภทโพลีฟีนอล (polyphenol) ในชาเมื่อผสมผสานกับบนเซลล์ในช่องปากแล้วเกิดรสฝาดแต่สารพอลิแซ็กคาไรด์ (polyoses) ในน้ำชาก็สามารถม้วนสารประเภทโพลีฟีนอล(polyphenol) ขึ้นจึงทำให้น้ำชามีรสชาติไหลลื่นยิ่งขึ้น
ความรู้สึกเรียบเป็นความรู้สึกทางปากที่สำคัญประการหนึ่งในการประเมินชาผู่เอ๋อร์ถ้าน้ำชามีความรู้สึกไหลลื่นก็จะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกสุขสบายและผ่อนคลายถ้าน้ำชาไม่ไหลลื่นก็อาจเป็นเพราะน้ำชาฝาดเกินไปหรือว่าน้ำชาจืดเกินไปอย่างชาผู่เอ๋อร์ที่เก็บไว้มานานหรือเป็นชาสุกก็จะมีความรู้สึกไหลลื่นชัดเจนกว่าถ้าเป็นชาดิบโดยเฉพาะชาที่ทำออกใหม่ๆนั้นความรู้สึกไหลลื่นของชาก็จะเบาบาง
ละลาย
ถ้าหากพูดว่าเรียบเป็นความรู้สึกเมื่อน้ำชาไหลเข้าปากไปสู่ลำคอความรู้สึกละลายก็พูดได้ว่าเป็นความเร็วที่ความรู้สึกละลายในช่องปากตามปกติแล้วคำว่าละลายที่ผู้ดื่มใช้กันในการประเมินชาจริงๆแล้วหมายถึงเวลาที่รสชาติของชาละลายอยู่ในช่องปากพอดื่มน้ำชาเข้าปากสักไม่กี่วินาทีก็ละลายหมดในช่องปากก็เรียกว่าละลายถ้าน้ำชาไม่ละลายรสชาติของชาจะค้างอยู่ในช่องปากทำให้เราไม่สามารถรู้สึกถึงความหลากหลายของชาได้เต็มที่การละลายนี้เป็นความรู้สึกทางปากที่ดีชาสุกจะละลายดีกว่าชาดิบชาที่เก็บไว้นานผ่านการหมักตามธรรมชาติแล้วรสชาติชาจะละลายได้เร็วขึ้นด้วยจนทำให้ผู้ดื่มรู้สึกชื่นใจ
ความมีชีวิตชีวา
หมายถึงความรู้สึกที่สดชื่นในช่องปากความรู้สึกสดชื่นเช่นกันกับความรู้สึกชื่นใจซึ่งเป็นความรู้สึกที่ซับซ้อนและต้องสัมผัสบ่อยๆจึงประเมินออกได้ถูกต้องเมื่อเทียบกับความรู้สึกเรียบนั้นรสที่สดชื่นก็จะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกมีชีวิตชีวาคล่องแคล่วมากกว่า
ชาผู่เอ๋อร์ที่เก็บไว้มานานปีสารภายในจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากต้องชงเป็นน้ำชาแล้วค่อยเกิดความรู้สึกสดชื่นได้แต่ชาผู่เอ๋อร์สุกที่ผ่านการหมักด้วยทางเทคนิคนั้นสารต่างๆของใบชาจะกลายเป็นสารที่ประกอบด้วยโมเลกุล (molecule) ใหญ่สีน้ำชาจะแก่ยิ่งขึ้นน้ำชาก็จะเข้มข้นยิ่งขึ้นซึ่งทำให้ความรู้สึกสดชื่นของน้ำชาไม่เด่นส่วนชาผู่เอ๋อร์ดิบที่ผ่านการหมักโดยธรรมชาตินั้นสารภายในของชาจะกลายเป็นสารที่ประกอบด้วยโมเลกุลเล็กซึ่งละลายในน้ำได้ง่ายมากจึงทำให้น้ำชามีความรู้สึกสดชื่นในช่องปากที่เด่นชัดความรู้สึกสดชื่นของน้ำชาจะทำให้ผู้ดื่มรู้สึกถึงความสดชื่นชื่นใจและมีพลังด้วย
น้ำ
การรับรู้รสชาติของน้ำในเวลาดื่มน้ำชานั้นเป็นความรู้สึกที่เกิดจากชาดิบที่เก่าแก่และชาสุกที่หมักได้ในเวลาไม่นานเป็นหลักเป็นความรู้สึกที่สัมผัสได้ง่ายรสสัมผัสเฉกเช่นเดียวกับการดื่มน้ำเปล่าซึ่งไร้รสชาติใดๆทั้งสิ้นแต่เนื่องจากน้ำชานั้นยังมีรสชาติอื่นๆแฝงอยู่ด้วยซึ่งต้องอาศัยการลิ้มรสและดื่มด่ำไปกับรสชาติของชาขณะที่ดื่มชานั้นเราจะไม่สามารถสัมผัสและรับรู้รสชาติน้ำเปล่าได้ทันทีแต่หลังจากที่ดื่มไปแล้วสักครู่จะรับรู้ได้ถึงรสชาติน้ำเปล่าปลายลิ้นและนี่เองเป็นความรู้สึกของการลิ้มรสและรับรู้รสชาติน้ำ
การที่เกิดความรู้สึกความชุ่มของน้ำในช่องปากส่วนมากจะเป็นเพราะวัตถุดิบที่ใช้แก่มากมีสารเกิดรสค่อนข้างน้อยหรือว่าในกระบวนการหมักนั้นใบชาถูกเก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูงและเก็บไว้นานเกินไปด้วย
ความรู้สึกความชุ่มของน้ำทางปากมีความสำคัญในการประเมินชาผู่เอ๋อร์เป็นอย่างยิ่งเพราะความอ่อนหรือแก่ของวัตถุดิบชาในกระบวนการหมักดำเนินไปถูกต้องหรือเปล่าและเวลาเก็บชานานพอสมควรหรือไม่ล้วนเป็นการประเมินโดยความรู้สึกความชุ่มน้ำทางปากได้ชาชนิดต่างกันเก็บในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันและผลิตด้วยวิธีที่ต่างกันจะเกิดความรู้สึกน้ำทางปากที่แตกต่างกันต้องชิมดูให้ละเอียดถึงจะสัมผัสได้
หนาและบาง
ความรู้สึกหนาและบางเป็นความรู้สึกที่ตรงกันข้าม
หนาหมายถึงชาที่มีสารภายในที่อุดมสมบูรณ์น้ำชาที่ชงจึงให้ความรู้สึกเข้มข้นหนักเหมือนคำพูดของคนชอบดื่มชาใช้กันบ่อยๆว่า “น้ำชาหนักหนาจนสามารถทับลิ้นได้” ส่วนความรู้สึกบางก็หมายถึงสารภายในของชาน้อยน้ำชาที่ชงออกมาก็รู้สึกบางรสชาติที่ได้ก็เบาบางด้วย
การที่น้ำชามีความรู้สึกทางปากที่หนาหรือบางนั้นก็ขึ้นอยู่กับจำนวนประเภทและปริมาณของสารภายในของชาถ้าชามีสารภายในจำนวนมากและมีปริมาณสูงเมื่อชงเป็นน้ำชาแล้วก็จะมีสารภายในปริมาณสูงด้วยซึ่งจะทำให้ชาชงได้หลายครั้งและน้ำชาจะให้ความรู้สึกทางปากที่หนาด้วยถ้าชามีสารภายในจำนวนน้อยน้ำชาที่ชงออกก็มีสารภายในน้อยเหมือนกันซึ่งจะทำให้รสชาติของน้ำชาจืดๆไม่สม่ำเสมอจะเกิดความรู้สึกทางปากที่เบาบางชาที่เก็บในฤดูใบไม้ผลิเมื่อเทียบกับชาที่เก็บในฤดูร้อนนั้นจะมีความรู้สึกทางปากหนากว่าชาที่เก็บในฤดูร้อนก็จะมีความรู้สึกทางปากที่เบาบางกว่า
ความรู้สึกหนาและบางยังมีความเกี่ยวข้องกับวิธีการชงชาเป็นอย่างมากด้วยถ้าใส่ใบชาเยอะเทน้ำชาออกช้าและปิดฝาก่อนที่จะเทน้ำชาออกก็จะทำให้น้ำชามีรสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้นและเกิดความรู้สึกทางปากที่หนายิ่งขึ้นตรงกันข้ามถ้าใส่ใบชาน้อยเทน้ำชาออกเร็วหรือเป็นน้ำชาที่ชงไปหลายครั้งนั้นรสชาติและความรู้สึกทางปากของน้ำชาก็จะเบาลงดังนั้นการประเมินความรู้สึกหนาและบางของชาต้องประเมินภายใต้วิธีชงชาที่เหมือนกันจึงจะได้ผลประเมินที่ถูกต้อง
ฝืด
หมายความว่าสารภายในชาไม่สมบูรณ์ไม่สม่ำเสมอการที่เกิดความรู้สึกทางปากลักษณะนี้ก็เพราะว่าสารภายในบางประเภทมีปริมาณมากเกินไปและสารประเภทอื่นกลับมีปริมาณน้อยเกินไปจึงทำให้รสชาติน้ำชาเสียความสมดุลจึงทำให้น้ำชาให้ความรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างบาดคออยู่
ความรู้สึกฝืดอาจเกิดขึ้นเพราะคุณสมบัติของน้ำด้วยในเขตหลายที่ของมณฑลยูนนานน้ำมีสภาพเป็นด่างองค์ประกอบของสารประจุบวกในน้ำมีปริมาณค่อนข้างสูงถ้าเอาน้ำประเภทนี้มาชงชาโดยเฉพาะชาที่มีรสชาติค่อนข้างเบานั้นก็จะเกิดความรู้สึกฝืดขึ้นดังนั้นในการประเมินชาผู่เอ๋อร์ควรใช้น้ำที่มีสภาพค่อนข้างเป็นกรดมาชงชาเพื่อไม่กระทบต่อคุณสมบัติของชา
การที่เกิดความรู้สึกฝืดยังมีความเกี่ยวข้องกับวิธีแปรรูปใบชาสดด้วยถ้าม้วนใบชาด้วยแรงมากเกินไปจะทำให้ใบชาแตกง่ายเมื่อนำชาไปชงก็ออกรสชาติและสีน้ำชาได้เร็วน้ำแรกและน้ำสองอาจมีรสชาติเข้มข้นมากแต่จะมีความรู้สึกฝืดเพราะใบชาแบบนี้แม้จะมีสารภายในหลายประเภทแต่สัดส่วนสารภายในไม่สมดุลถ้าชงไปหลายครั้งน้ำต่อมาก็อาจมีรสชาติเบาบางหรือไม่ค่อยมีรสชาติก็ได้ในการประเมินชาผู่เอ๋อร์ต้องชิมน้ำชาอย่างตั้งใจและวิเคราะห์สรุปเอกลักษณ์ของความรู้สึกต่างๆทางปากจะช่วยประเมินชาผู่เอ๋อร์ได้ถูกต้องแม่นยำ
ความรู้สึกในลำคอ
น้ำชานอกจากมีรสชาติและความรู้สึกทางปากแล้วยังมีความรู้สึกในลำคอด้วยซึ่งรวมถึงหวานกลับชุ่มฉ่ำลำคอและชุ่มลิ้นความรู้สึกเหล่านี้ถือว่าเป็นความรู้สึกสำหรับผู้ดื่มชาก็เป็นการเพิ่มของความรู้สึก การดื่มชาและความสุขทางจิตใจ
หวานกลับ
หวานที่ระบุที่นี่ไม่ใช่รสหวานธรรมดารสหวานธรรมดาเป็นรสที่สัมผัสโดยห่อลิ้นแต่ความรู้สึกหวานกลับเป็นความรู้สึกที่เกิดเมื่อดื่มน้ำชาเข้าไปแล้วผู้ดื่มรู้สึกมีรสหวานเบาๆอ่อนๆในลำคอนั่นก็คือความรู้สึกหวานกลับ
คนโบราณเคยเขียนบทกวีมากมายมาชื่นชมความรู้สึกหวานกลับของชาผู้ดื่มต้องสัมผัสรสขมของน้ำชาก่อนแล้วค่อยมีความรู้สึกหวานกลับทีหลังเปรียบเสมือนชีวิตคนเราที่มักจะต้องประสบความทุกข์ยากลำบากก่อนมักจะประสบความสำเร็จและมีความสุขทีหลังดังนั้นคุณสมบัติของชาจึงได้รับการยกย่องจากผู้คนที่ชอบดื่มชามาโดยตลอด
ผู้ชอบดื่มชาบางท่านชอบดื่มชาที่มีรสขมเด่นชัดก็เพื่อสัมผัสความรู้สึกหวานกลับของชาแต่จริงๆแล้วรสขมของชาและความรู้สึกหวานกลับของชาไม่ได้มีความจำเป็นชาผู่เอ๋อร์บางชนิดที่มีคุณภาพไม่ดีอาจมีรสขมเข้มข้นแต่ไม่เกิดความรู้สึกหวานกลับแต่สมุนไพรจีนบางชนิดอย่างเช่นพืชชะเอม (liquorice) เมื่อชงเป็นน้ำจะไม่มีรสขมแต่มีความรู้สึกหวานกลับชาผู่เอ๋อร์บางชนิดก็ไม่ค่อยมีรสขมแต่มีความรู้สึกหวานกลับ
ในกระบวนการประเมินชาผู่เอ๋อร์การรู้จักแบ่งแยกความรู้สึกหวานกลับจะช่วยในการแบ่งแยกชนิดสถานที่ผลิตเวลาที่เก็บไว้ของผลิตภัณฑ์ชาชาที่ต่างกันจะให้ความรู้สึกหวานกลับที่ต่างกัน
ขมกลับ
น้ำชามีความรู้สึกด้านขมเป็นสองประเภทประเภทหนึ่งคือรสขมที่สัมผัสได้เมื่อลิ้นสัมผัสกับน้ำชาแล้วค่อยๆหายไปเกิดความรู้สึกหวานกลับประเภทที่สองคือความรู้สึกขมที่ผู้ดื่มเข้าไปในลำคอแล้วจะค่อยๆเกิดขึ้นและคงเวลานานๆก็ไม่หายก็คือขมกลับความรู้สึกขมกลับไม่เหมือนหวานกลับรสขมจะคงอยู่นานๆก็ไม่หาย
ชาที่เกิดความรู้สึกขมนั้นส่วนมากเป็นชาที่ทำด้วยวัตถุดิบแก่ที่เน่าเสียหรือที่เก็บไว้ในที่ที่มีความชื้นสูงหรือการนวดไม่ค่อยดีความรู้สึกขมกลับเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าคุณภาพชาไม่ดีเป็นชาที่แปรรูปหรือเก็บรักษาด้วยวิธีไม่ถูกต้องไม่ควรเก็บไว้หรือดื่มต่อไป
ชุ่มฉ่ำลำคอ
“หลูถง” กวีในสมัยราชวงค์ถังเคยเขียนบทกวีเกี่ยวกับชาว่า “ดื่มหนึ่งถ้วยชุ่มลำคอ” ความชุ่มฉ่ำเป็นความรู้สึกที่บรรดาคนชอบดื่มน้ำชาใฝ่ฝันมาโดยตลอดความรู้สึกชุ่มฉ่ำรู้สึกเรียบเรียบเป็นความรู้สึกพื้นฐานต้องรู้สึกถึงเรียบก่อนแล้วค่อยรู้สึกถึงชุ่มฉ่ำได้การที่คนเรารู้สึกหิวน้ำก็เป็นเพราะลำคอแห้งเมื่อดื่มน้ำเพียงพอแล้วจึงเกิดความรู้สึกชุ่มฉ่ำในลำคอได้พวกเราก็จะเลิกหิวน้ำการที่ชากลายเป็นเครื่องดื่มที่เป็นที่นิยมกันในทั่วโลกตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันนี้ก็เพราะว่าการดื่มน้ำชาจะชุ่มฉ่ำลำคอช่วยเลิกความหิวน้ำได้ไม่เหมือนเครื่องดื่มอย่างอื่นเช่นน้ำผลไม้หรือน้ำอดลมแม้ได้เสริมน้ำแก่ร่างกายแต่ไม่สามารถชุ่มฉ่ำลำคอได้สักเท่าไร
ชาผู่เอ๋อร์ที่เก็บไว้มานานปีส่วนมากจะเกิดความรู้สึกชุ่มฉ่ำได้อย่างชัดเจนแต่สำหรับชาที่ผลิตขึ้นใหม่ๆนั้นถ้าอยากให้เกิดความรู้สึกชุ่มฉ่ำก็ต้องคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและผลิตด้วยเทคนิคระดับสูงด้วย
ชุ่มลิ้น
ความรู้สึกชุ่มลิ้นหมายถึงกระบวนการเกิดน้ำลายในปากในวงการแพทย์จีนปัจจุบันน้ำลายมีสมญานามว่า“น้ำยืดอายุ” เพราะน้ำลายมีองค์ประกอบของสารประเภทเอนไซม์ (enzyme) ในปริมาณสูงซึ่งจะมีส่วนช่วยในการย่อยและดูดซึมโภชนาการที่ชัดเจนดังนั้นน้ำลายจึงมีสรรพคุณดีต่อสุขภาพร่างกายเป็นอย่างมากนอกจากนี้แล้วน้ำลายยังมีประโยชน์ชุ่มฉ่ำลำคอช่วยแก้กระหายน้ำและชุ่มฉ่ำร่างกายยื่นอายุยาวได้ด้วย
ชาผู่เอ๋อร์ผลิตด้วยใบชาสดของต้นชาประเภทใบชาใหญ่ซึ่งเป็นชาชนิดที่มีสารภายในอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะมีปริมาณเอสเตอร์คาเทชินมาก (EGCG, ECG เป็นต้น) รสชาติฝาดแต่ชุ่มลิ้นมีสรรพคุณชุ่มลิ้นอย่างเด่นชัดเป็นพิเศษแต่ไม่ใช่ว่ามีรสฝาดก็จะเกินความรู้สึกชุ่มลิ้นด้วยชาบางชนิดที่คุณภาพไม่ดีแม้เกิดรสฝาดที่แรงๆแต่ไม่มีความรู้สึกชุ่มลิ้นกลับรู้สึกกล้ามเนื้อในแก้มสองด้านไม่สบายเหมือนเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุกตุ่มรับรสชาติหนาขึ้นแต่ไม่มีความรู้สึกชุ่มลิ้นความรู้สึกที่มีรสฝาดอย่างเดียวแต่ไม่ชุ่มลิ้นนี้ถูกเรียกว่ารสฝาดละลายไม่ได้ซึ่งทำให้ชาไม่ชุ่มลิ้นแก้หิวน้ำได้
ตามปกติแล้วความรู้สึกชุ่มลิ้นสามารถแบ่งเป็นชุ่มลิ้นในแก้มสองด้านชุ่มลิ้นในบริเวณระหว่างฟันและแก้มชุ่มลิ้นในผิวหน้าลิ้นและชุ่มลิ้นใต้ลิ้นเป็นต้น
ชุ่มลิ้นในแก้มสองด้าน
ความชุ่มลิ้นในแก้มสองด้านเป็นความรู้สึกชุ่มลิ้นที่แรงที่สุดเมื่อพวกเราดื่มน้ำชาเข้าไปในปากสารที่เกิดรสฝาดก็จะกระตุ้นเยื่อภายในของชา (tea intima) ในแก้มสองด้านจึงเกิดน้ำลายดังนั้นความชุ่มลิ้นแบบนี้จึงเรียกว่าความชุ่มลิ้นในแก้มสองด้านความชุ่มลิ้นแบบนี้ส่วนใหญ่จะเกิดน้ำลายค่อนข้างมากจนรู้สึกช่องปากเต็มไปด้วยน้ำลาย
ใบชาที่เก็บในต้นฤดูใบไม้ผลิหรือใบชาอ่อนที่มีรสฝาดแรงนั้นจะเกิดความรู้สึกชุ่มลิ้นในแก้มสองด้านที่ชัดเจนถ้าร่างกายสูญเสียน้ำมากเลือกดื่มชาที่สามารถเกิดความรู้สึกชุ่มลิ้นในแก้มสองด้านจะช่วยแก้หิวน้ำได้อย่างรวดเร็ว
ความชุ่มลิ้นในบริเวณระหว่างฟันและแก้มสองด้าน
เมื่อดื่มน้ำชาเข้าแล้วสารแทนนินในชาจะกระตุ้นเยื่อภายในของชา (tea intima) ในบริเวณระหว่างฟันและแก้มสองด้านจนเกิดน้ำลายความชุ่มลิ้นในบริเวณระหว่างฟันและแก้มกับความชุ่มลิ้นในแก้มสองด้านนอกจากเกิดความรู้สึกชุ่มลิ้นในตำแหน่งที่ต่างกันแล้วความรู้สึกชุ่มลิ้นที่เกิดขึ้นนั้นก็มีความแตกต่างด้วยความชุ่มลิ้นในแก้มสองด้านเปรียบเสมือนน้ำตกไหลลงมารวดเร็วและมีปริมาณมากแต่ความชุ่มลิ้นในบริเวณระหว่างฟันและแก้มกลับเหมือนแม่น้ำสายเล็กๆไหลผ่านอย่างอ่อนนุ่ม
ชาผู่เอ๋อร์ประเภทชาสุกที่ได้ผ่านการหมักด้วยเทคนิคนั้นจะเกิดความชุ่มลิ้นในบริเวณระหว่างฟันและแก้มที่ค่อนข้างชัดเจน
ชุ่มลิ้นในผิวหน้าลิ้น
ตามปกติแล้วน้ำลายจะเกิดจากตุ่มรับรสชาติในช่องปากและข้างล่างลิ้นส่วนผิวหน้าลิ้นนั้นจะทำหน้าที่รับรู้รสชาติแต่ถ้าดื่มชาชนิดที่รสฝาดละลายได้เร็วนั้นก็จะเกิดน้ำ serosity บนผิวหน้าลิ้นทำให้ลิ้นชุ่มฉ่ำคล้ายๆความรู้สึกชุ่มลิ้นผู้ดื่มชาส่วนใหญ่ก็จะรับรู้กับความรู้สึกแบบนี้ได้บ่อยๆ
ชาผู่เอ๋อร์ที่เก็บไว้มาประมาณ 3 - 5 ปีส่วนใหญ่ก็จะเกิดความรู้สึกชุ่มลิ้นในผิวหน้าลิ้นได้เมื่อเราดื่มน้ำชาเข้าไปแล้วน้ำลายจะค่อยๆเกิดมาบนผิวหน้าลิ้นให้ความรู้สึกที่อบอุ่นนุ่มนวลขณะเดียวกันก็รู้สึกลิ้นยังเกิดน้ำลายอยู่จนไหลไปยังปุ่มรับรสชาติในช่องปากด้วย
ความชุ่มลิ้นในผิวหน้าลิ้นนอกจากให้ความรู้สึกชุ่มฉ่ำและช่วยแก้กระหายน้ำได้แล้วยังได้ความรู้สึกผ่อนคลายสุขสบายเหมือนมีน้ำพุเล็กไหลผ่านช่องปากอ่อนนุ่มเบาบาง
ชาผู่เอ๋อร์แผ่นกลมฉลากแดงฉลากเขียวและฉลากเหลืองซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในระยะเริ่มต้นของโรงงานชาเหมิ่งไห่นั้นล้วนมีสรรพคุณที่จะเกิดความรู้สึกชุ่มลิ้นอย่างเด่นชัดชาที่ทำด้วยใบชาสดของต้นชาประเภทใบใหญ่ถ้าผลิตโดยวิธีที่ดีมีรสฝาดแรงพอดีก็จะเกิดความรู้สึกชุ่มลิ้นได้แค่จะแตกต่างที่ระดับความแรงของความรู้สึกเท่านั้น
ความชุ่มลิ้นใต้ลิ้น
ความชุ่มลิ้นในข้างล่างของลิ้นหมายถึงเมื่อดื่มน้ำชาเข้าไปแล้วน้ำชาไหลลงในบริเวณระหว่างข้างล่างของลิ้นและเหงือกฟันเมื่อเกิดน้ำลายขึ้นผู้ดื่มจะรู้สึกเหมือนกับว่ามีฟองพู่ออกในบริเวณนั้นความรู้สึกแบบนี้ก็เรียกว่าความชุ่มลิ้นในข้างล่างลิ้น
ชาผู่เอ๋อร์ที่เก็บรักษาไว้เป็นเวลานานน้ำชาจะออกรสที่อ่อนนุ่ม รสขมและรสฝาดล้วนหายไปหมดแต่ยังคงรสชาติของชาอยู่ดีเมื่อน้ำชาสัมผัสบริเวณใต้ลิ้นจะค่อยๆเกิดน้ำลายขึ้นทำให้ผู้ดื่มรู้สึกเหมือนมีฟองเล็กๆในบริเวณนั้นเนื่องจากได้ผ่านเวลานานธีโพลีฟีนอล (tea Pholyphenol) ในชาก็ได้ผ่านการทำปฏิกิริยาเคมี(chemicalreaction )หลายอย่างจนไม่สามารถกระตุ้นแก้มหรือผิวหน้าลิ้นแล้วแต่สารชนิดใหม่ที่เกิดขึ้นโดยปฏิกิริยาเคมี (chemicalreaction) เหล่านั้นสามารถช่วยเกิดความชุ่มลิ้นในบริเวณใต้ลิ้นได้
ความชุ่มลิ้นในบริเวณใต้ลิ้นเกิดขึ้นช้ากว่าความชุ่มลิ้นประเภทอื่นแต่ขณะเดียวกันก็สามารถคงเวลานานกว่าด้วยกระบวนการเกิดน้ำลายก็จะทำให้ความรู้สึกนุ่มนวล
สรุปได้ว่าชาผู่เอ๋อร์มีรสชาติหวานเปรี้ยวขมฝาดและสดมีความรู้สึกทางปากเช่นเข้มข้นหนาเรียบบางและฝืดเป็นต้นและยังมีความรู้สึกในลำคอเช่นหวานขมกลับชุ่มฉ่ำลำคอและชุ่มลิ้นด้วย
กระบวนการประเมินชาก็เป็นกระบวนการรับรู้ถึงความสุขถ้าสามารถคัดเลือกชาที่มีคุณภาพ ปริมาณใบชาวิธีชงชาและเวลาดื่มชาที่ถูกต้องแล้วก็จะได้รับรู้ถึงรสชาติที่แท้จริงของชา
การประเมินกลิ่นของชา
กลิ่นเป็นคุณสมบัติของชาที่รับรู้โดยตรงได้ง่ายที่สุดประเมินกลิ่นของชาจะใช้วิธีดมเป็นหลักเมื่อพวกเราได้รับรู้ถึงกลิ่นหอมของชามักจะรู้สึกรื่นเริงใจ
ชาผู่เอ๋อร์ปลูกได้ในบริเวณกว้างใหญ่เก็บได้หลายฤดูคุณภาพชาแบ่งได้เป็นหลายระดับวิธีการแปรรูปชาก็มีหลากหลายวิธีด้วยดังนั้นชาผู่เอ๋อร์จึงมีกลิ่นหอมมากมายหลายชนิดเขตปลูกชาต่างกันชาชนิดต่างกันก็มีกลิ่นหอมที่แตกต่างกันด้วย
คุณสมบัติทางกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดก็คือยิ่งเก็บไว้นานกลิ่นหอมยิ่งละมุนละไมชาผู่เอ๋อร์ที่เก็บรักษาไว้ในที่ต่างกันหรือเก็บไว้เป็นเวลานานต่างกันก็จะเกิดความเปลี่ยนแปลงทางคุณสมบัติชาที่แตกต่างกันในการประเมินชาผู่เอ๋อร์มักจะพบกลิ่นหอมชาที่ซับซ้อนเหมือนกลิ่นหอมดอกไม้แต่ก็คล้ายกลิ่นหอมผลไม้ด้วยแต่กลิ่นหอมพื้นฐานของชาผู่เอ๋อร์ยังแบ่งแยกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ดังต่อไปนี้
กลิ่นหอมแบบดอกกล้วยไม้
“กลิ่นหอมดังกล้วยไม้ที่ละมุนละไมไปไกลแสนไกลรูปกลมๆเสมือนดวงจันทร์ที่ส่งแสงสว่างในตอนกลางเดือนกันยา” เป็นบทกวียกย่องชาผู่เอ๋อร์ที่งดงามที่สุดของจีนชาผู่เอ๋อร์ที่ดำด้วยใบชาสดมีความอ่อนในระดับ 3 ระดับ 4 และระดับ 5 เมื่อเก็บไว้เป็นระยะเวลาช่วงหนึ่งแล้วน้ำชาที่ชงออกมาก็จะเกิดกลิ่นหอมกล้วยไม้กลิ่นหอมบริสุทธิ์
ตามปกติแล้วแถบชาค่อนข้างยาวสีใบชาเป็นสีเขียวออกสีหมึกดำใบชาที่ชงไปแล้วก็มองเห็นได้ว่าเป็นใบชาที่มีระดับความอ่อนสูงใบชาแบบนี้เมื่อเก็บไว้เป็นเวลานานแล้วน้ำชาที่ชงออกมาก็จะมีกลิ่นหอมกล้วยไม้ที่เข้มข้นแต่ถ้าเป็นใบชาที่ค่อนข้างแก่เมื่อเก็บไว้เป็นเวลานานแล้วน้ำชาที่ได้ก็จะมีกลิ่นหอมกล้วยไม้ที่เบาบางกว่าประเภทกลิ่นหอมของชาที่เกิดเมื่อชาถูกเก็บไว้เป็นช่วงเวลาหนึ่งมีความเกี่ยวข้างกับสภาพแวดล้อมการปลูกชาและระดับความอ่อนของใบชาสดที่ใกล้ชิดดังนั้นถ้ารู้จักสภาพแวดล้อมการปลูกชาและระดับความอ่อนของชาให้ดีก็สามารถคาดถึงประเภทกลิ่นหอมของชา
กลิ่นหอมแบบดอกบัว
“หน่อชาที่สีเนื้อใบอ่อนนุ่มสีใบชาเป็นเขียวอ่อนดูน่ารักส่วนใหญ่จะไม่ทำเป็นแผ่นกลมมีกลิ่นหอมเบาๆดังกลิ่นหอมดอกบัว” บทกวีนี้เป็นบทกวีที่พรรณนาถึงใบชาสดชาผู่เอ๋อร์ที่มีความอ่อนในระดับสูงสุดแต่ใบชาสดของชาผู่เอ๋อร์ส่วนมากไม่มีกลิ่นหอมดอกบัวกลับมีกลิ่นหอมหญ้าสดๆต้องผ่านกระบวนการหมักเป็นช่วงเวลาหนึ่งแล้วกลิ่นหอมหญ้าค่อยๆหายไปชาผู่เอ๋อร์ที่ทำด้วยใบชาสดอ่อนนั้นจึงจะมีกลิ่นหอมแบบดอกบัวกลิ่นหอมแบบดอกบัวเป็นกลิ่นหอมที่เบาบางซึ่งจะสร้างบรรยากาศอันโรแมนติกให้กับผู้ดื่มชา
กลิ่นหอมแบบน้ำผึ้ง
ชาผู่เอ๋อร์มีกลิ่นหอมน้ำผึ้ง 3 ประเภทคือกลิ่นหอมแบบน้ำผึ้งจากดอกไม้กลิ่นหอมแบบน้ำผึ้งจากผลไม้และกลิ่นหอมน้ำผึ้งกลิ่นหอมน้ำผึ้งจากดอกไม้เป็นกลิ่นหอมที่ผสมกลิ่นหอมดอกไม้และกลิ่นน้ำผึ้งจากดอกไม้เช่นกลิ่นน้ำทิพย์กุหลาบก็มีกลิ่นหอมกุหลาบและกลิ่นน้ำผึ้งจากดอกไม้ที่หวานๆชาผุ่เอ๋อร์ที่มีกลิ่นน้ำผึ้งจากดอกไม้ส่วนใหญ่เป็นชาที่เก็บไว้เป็นช่วงเวลาหนึ่งเช่นชายี่อู่เมื่อเก็บเป็นเวลายิ่งนานกลิ่นหอมน้ำทิพย์ยิ่งเด่นชัดกลิ่นหอมแบบน้ำผึ้งจากผลไม้เป็นกลิ่นหอมดั้งเดิมของชาผู่เอ๋อร์ชารุ่นMengsong Nakha และชาจิ่งม่ายก็มีกลิ่นหอมแบบน้ำผึ้งจากผลไม้ที่เด่นชัดกลิ่นหอมชนิดนี้รับรู้ได้ชัดเจนมากเมื่อดมแก้วดื่มชาจึงมีสมญานามว่ากลิ่นหอมติดบนแก้วดื่มชาส่วนกลิ่นหอมแบบน้ำผึ้งนั้นก็รับรู้จากน้ำชาของชาสุกอย่างชัดเจนโดยเฉพาะชาสุกที่เก็บไว้เป็นเวลานานมีกลิ่นหอมน้ำผึ้งที่เข้มข้นมากกลิ่นหอมน้ำทิพย์เป็นกลิ่นหอมชาผู่เอ๋อร์ที่รับรู้ได้ง่ายที่สุดแต่ประเภทกลิ่นหอมน้ำทิพย์แบ่งแยกไม่ง่ายต้องชิมดูและวิเคราะห์อย่างละเอียด
กลิ่นหอมดอกไม้และผลไม้
กลิ่นหอมดอกไม้และผลไม้ของชาผู่เอ๋อร์ได้แก่กลิ่นหอมกุหลาบกลิ่นหอมแบบดอกธัญญพืชกลิ่นหอมดอกกล้วยไม้กลิ่นหอมแบบหมื่นลี้ (osmanthus) กลิ่นหอมแบบป๊วยและกลิ่นหอมแบบเกาลัดเป็นต้นนอกจากนี้ยังมีกลิ่นหอมแบบดอกหญ้าที่ไม่รู้จักชื่อและมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์บางชนิดการที่ชาผู่เอ๋อร์มีกลิ่นหอมชนิดหลากหลายเป็นเพราะชาผู่เอ๋อร์ปลูกได้ในที่ที่มีสภาพแวดล้อมต่างกันและวิธีแปรรูปของชาผู่เอ๋อร์ก็มีหลากหลายด้วยในเขตปลูกชาหลายแห่งมีกลิ่นหอมชาผู่เอ๋อร์ประจำสถานที่เช่นชาปันจังและชาเหล่ามั่นเอ๋อก็มีกลิ่นหอมดอกธัญญพืชชาปาต๋าชาปู้หลั่งก็มีกลิ่นหอมป๊วยที่ชัดเจนชาในภูเขาหนันโน่วซานมีกลิ่นหอมข้าวเหนียวชาขาวใหญ่ของจิ่งกู่และชาเก๋อหลั่งเหอก็มีกลิ่นหอมกุหลาบส่วนชาเฟิ่งชิ่งก็มีกลิ่นหอมชาแดงแบบกลิ่นหอมกล้วยไม้เป็นต้นความยากลำบากในการประเมินกลิ่นหอมดอกไม้และผลไม้ของชาผู่เอ๋อร์อยู่ที่ความใกล้เคียงของกลิ่นหอมกลิ่นหอมบางชนิดรู้สึกคุ้นเคยแต่ก็ไม่แน่ว่าเป็นกลิ่นหอมชนิดไหนดังนั้นในชีวิตประจำวันควรสะสมกลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้ต่างๆฝึกหัดการแบ่งแยกประเภทของกลิ่นหอมเหล่านี้เพื่อสรุปเอกลักษณ์ของกลิ่นหอมต่างๆ
กลิ่นหอมสดชื่น
กลิ่นหอมชนิดนี้เป็นกลิ่นหอมชาที่รับรู้ได้ชัดเจนที่สุดและก็เป็นกลิ่นหอมดั้งเดิมของชาผู่เอ๋อร์ชาที่ทำด้วยใบชาสดที่อ่อนจะเกิดกลิ่นหอมสดชื่นที่เด่นชัดที่สุดกลิ่นหอมสดชื่นไม่เหมือนกลิ่นหอมดอกไม้และผลไม้หรือกลิ่นหอมน้ำผึ้งซึ่งมีเอกลักษณ์ของตนที่เด่นชัดแต่เป็นกลิ่นหอมดั้งเดิมของชาที่เบาบางนุ่มนวล
กลิ่นหอมสดชื่นของชาผู่เอ๋อร์มีความเกี่ยวข้องกับวัตถุดิบชาและฤดูกาลของชาตามปกติแล้วชาที่เก็บในฤดูใบไม้ผลิและชาที่ทำด้วยวัตถุดิบอ่อนจะมีกลิ่นหอมสดชื่นที่ค่อนข้างชัดเจนผลิตภัณฑ์ชาต้ายี่รุ่นชูนเจ่าก็มีกลิ่นหอมสดชื่นที่เด่นชัด
กลิ่นหอมหวาน
กลิ่นหอมหวานแบ่งออกเป็นสองประเภท 1) คือหอมประเภทน้ำตาลเป็นกลิ่นหอมของน้ำตาลทรายหรือน้ำตาลคาราเมล 2) คือกลิ่นหวานแท้ๆกลิ่นหอมหวานเป็นกลิ่นหอมของชาผู่เอ๋อร์ชาสุกเป็นหลักในกระบวนการหมักเส้นใยกลายเป็นธีพอลิแซ็กคาไรด์ (polysaccharide) น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว (monosaccharide) จึงเกิดกลิ่นหอมหวานขึ้นชาสุขบางชนิดที่หมักในระดับสูงก็จะเกิดกลิ่นหอมน้ำตาลคาราเมลขึ้นชาสุกชนิดที่ต่างกันก็จะมีกลิ่นหอมหวานที่แตกต่างกันแม้ความแตกต่างจะไม่ชัดเจนมากแต่ถ้าวิเคราะห์และสรุปเอกลักษณ์กลิ่นหอมหวานของชาสุกชนิดต่างๆก็จะเป็นส่วนช่วยในการแบ่งแยกชนิดของชาสุกได้บ้าง
กลิ่นหอมพุทรา
กลิ่นหอมพุทราของชาผู่เอ๋อร์แบ่งออกเป็นสองประเภทได้แก่ประเภทพุทราเขียวและประเภทพุทราแดงกลิ่นหอมพุทราเขียวคล้ายๆกลิ่นหอมดอกไม้ผลไม้จะมีอยู่ในชาดิบเป็นหลักมีเอกลักษณ์ของตนอย่างชัดเจน
ส่วนกลิ่นหอมพุทราแดงก็มีอยู่ในชาสุกเป็นหลักเป็นกลิ่นหวานและแทรกด้วยกลิ่นหอมพุทราตามปกติแล้วกลิ่นหอมพุทราของชาเกิดจากกระบวนการหมักผลิตภัณฑ์ที่ทำออกมาใหม่ๆจะมีกลิ่นหอมพุทราไม่ค่อยชัดเจนแต่ถ้าเก็บไว้เป็นช่วงเวลาหนึ่งกลิ่นหอมพุทราก็จะค่อยๆออกชัดเจนขึ้น
ชาสุกของชาผู่เอ๋อร์ต้ายี่หลายชนิดก็มีกลิ่นหอมพุทราที่ชัดเจนเช่นชารุ่น 7572 ชาแผ่นกลมหงยุ่นและหลงจู้ (เสามังกร) เป็นต้นโดยเฉพาะชาเหล่านี้ที่เก็บไว้เป็นเวลานานนั้นมีกลิ่นหอมพุทราที่เข้มข้นมาก
กลิ่นหอมแบบควัน
กลิ่นหอมควันเป็นกลิ่นที่เกิดจากกระบวนการตากแห้งใบชาสดส่วนใหญ่จะเป็นเพราะขนาดการแปรรูปค่อนข้างเล็กและฝนตกหนักด้วยทำให้ไม่สามารถตากใบชาให้แห้งทั้งหมดชาวนาอาจเอาใบชาที่ตากแห้งในระดับหนึ่งนั้นไปแขวนบนเพดานห้องครัวตากใบชาให้แห้งโดยความร้อนในกระบวนการทำกับข้าวในห้องครัวดังนั้นก็จะทำให้ใบชามีกลิ่นแบบควันขึ้นกลิ่นหอมแบบนี้แตกต่างจากกลิ่นหอมของชาแดงชนิดต้นเล็กสิ้นเชิงและก็ไม่เหมือนกลิ่นของบุหรี่ชาผู่เอ๋อร์ที่ปลูกในเขตหลานชางหลินเสียงและเฟิ่งชิ่งมีกลิ่นควันที่ชัดเจนชาผู่เอ๋อร์ที่มีกลิ่นควันจะมีรสชาติชาที่เข้มข้นแต่เนื่องจากมีกลิ่นควันที่ชัดเจนอาจทำให้ผู้ดื่มรับรู้ถึงรสชาติและกลิ่นอย่างอื่นของชาไม่ได้ในบรรดาผลิตภัณฑ์ชาต้ายี่นั้นอูจินเห้าจินเสื้อยู่นเสี้ยงและต้ายี่ทองมีกลิ่นควันที่ชัดเจนซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่นิยมกันในตลาดชาผู่เอ๋อร์
กลิ่นหอมแบบเนื้อไม้
กลิ่นหอมไม้เป็นกลิ่นหอมชาผู่เอ๋อร์ที่พบกันได้บ่อยแต่กลิ่นหอมนี้มักจะถูกปนด้วยกลิ่นอย่างอื่นเช่นบางคนคิดว่ากลิ่นหอมแบบต้นไม้จางเป็นกลิ่นหอมแบบต้นไม้ของชาบางคนก็คิดว่ากลิ่นหอมของชาที่เก็บไว้เป็นช่วงเวลาหนึ่งนั้นเป็นกลิ่นหอมไม้จริงๆแล้วกลิ่นหอมแบบต้นไม้เป็นกลิ่นคล้ายๆไม้ที่เสียไปแล้วแต่มีกลิ่นหอมเบาบางละมุนละไม
ชาผู่เอ๋อร์ที่มีกลิ่นหอมไม้ส่วนใหญ่เป็นชาผู่เอ๋อร์ที่มีก้านไม้ชาค่อนข้างเยอะก้านไม้ชาเมื่อเก็บไว้นานแล้วก็จะเกิดกลิ่นหอมไม้ผลิตภัณฑ์ชาต้ายี่ก็มีหลายชนิดมีกลิ่นหอมไม้ที่ชัดเจนเช่นแผ่นกลมฉลากแดงในระยะแรกชาแผ่นกลมฉลากเขียวในระยะแรกและ 7592 เป็นต้น
ในการประเมินกลิ่นหอมของชาผู่เอ๋อร์ต้องระวังแยกความแตกต่างระหว่างกลิ่นหอมไม้และกลิ่นหอมชาแก่กลิ่นหอมไม้เป็นกลิ่นหอมที่ดมได้โดยตรงชาบางชนิดที่มีก้านไม้ชาเยอะก็สามารถรับรู้กลิ่นหอมไม้ได้ชัดเจนแต่กลิ่นหอมที่เกิดจากการเก็บไว้นานนั้นก็รับรู้ได้แต่ในชาที่เก็บไว้เป็นช่วงเวลาหนึ่งแล้ว
กลิ่นหอมชาแก่
คุณสมบัติที่เด่นชัดที่สุดของชาผู่เอ๋อร์ก็คือยิ่งเก็บไว้นานยิ่งหอมละมุนละไมคนที่ชอบดื่มชา ผู่เอ๋อร์ต่างก็ชอบกลิ่นหอมชาแก่ของชาผู่เอ๋อร์เพราะกลิ่นหอมแบบนี้เหมือนกับกลิ่นหอมของเหล้าที่เก็บไว้นานกลิ่นหอมเบาบางแต่ละมุนละไมเป็นเวลานานดมแล้วรู้สึกผ่อนคลายเหมือนเมาเหล้านิดหน่อยเนื่องจากต้องเก็บชาเป็นเวลานานจึงจะได้กลิ่นหอมดังนั้นกลิ่นหอมแบบนี้ยังเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกให้รู้สึกถึงความเก่าแก่ของชาเป็นของขวัญที่ได้จากเวลาที่ผ่านมากลิ่นหอมชาแก่ส่วนใหญ่จะรับรู้ได้ชัดเจนในชาเก่าแก่ที่เก็บไว้นานๆกลิ่นหอมของชาผู่เอ๋อร์มีชนิดหลากหลายและมีคำอธิบายกลิ่นหอมต่างๆที่แตกต่างกันด้วยซึ่งไม่สามารถบรรยายให้หมดการประเมินกลิ่นหอมของชาผู่เอ๋อร์สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือรับรู้ความรู้สึกที่ได้จากกลิ่นหอมเพราะชาต่างชนิดกันเก็บไว้เป็นเวลาไม่เท่ากันจึงเกิดกลิ่นหอมชาที่แตกต่างและซับซ้อนกันกลิ่นหอมต่างๆของชายังเป็นเครื่องบ่งบอกให้รับรู้ถึงชนิดและเวลาที่เก็บไว้จนถึงประวัติศาสตร์ของชาด้วยทำให้ผู้ดื่มเกิดความใกล้ชิดกับชามากยิ่งขึ้น
คำถามที่พบบ่อย
กลุ่มความรู้และสรรพคุณชาผู่เอ๋อร์สุก และชาผู่เอ๋อร์ดิบ
เพื่อนๆถามว่า : คนเป็นเบาหวานควรดื่มชาประเภทไหน?
mr.puerh ตอบ : แนะนำเป็นชาผู่เอ๋อร์ ชนิด สุกครับผม เพราะว่า ในชาผู่เอ๋อร์สุก
เพราะมีทีโพลีฟีนอล เมื่อมันจับตัวกับน้ำตาลแล้วทำให้โมเลกุลมันใหญ่ขึ้น
ทำให้ลดการดูดซึมของโมเลกุลน้ำตาลได้
เพื่อนๆถามว่า : ดื่มแทนน้ำเลยได้หรือไม่
mr.puerh ตอบ : ได้ครับ สำหรับชาสุก เพราะ มีคาแฟอีน ต่ำหรือไม่มีเลย ทำให้สามารถดื่มได้ทั้งวันครับ
ส่วนชาดิบ จะยังมีคาแฟอีน ทำให้ไม่ค่อยเหมาะกับการดื่มก่อนนอน
เพื่อนๆถามว่า : ชาผู่เอ๋อร์ดิบ เก็บไปนานๆเป็น 50 ปี จะเป็นชาผู่เอ๋อร์ดิบหรือไม่
mr.puerh ตอบ : คำถามนี้พบเจอได้บ่อยครับ หลังจากที่ผมไปสอบถามจากผู้ผลิตชาผู่เอ๋อร์แล้วได้คำตอบว่า
ชาผู่เอ๋อร์ดิบ เก้บให้เก่ายังไงก็เป็นชาผู่เอ๋อร์ดิบเก่าไม่มีทางเป็นชาผู่เอ๋อร์สุกได้เลย
เพราะกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน ดังนั้น ชาผู่เอ๋อร์สุกก็คือชาผู่เอ๋อร์สุก
ชาผู่เอ๋อร์ดิบที่อายุเยอะมากๆก็คือชาผู่เอ๋อร์ดิบเก่า ครับ
>>> เข้าชมคำถามที่พบบ่อย <<<
หน้าที่เข้าชม | 334,704 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 150,205 ครั้ง |
เปิดร้าน | 17 ก.ค. 2557 |
ร้านค้าอัพเดท | 1 ก.ย. 2568 |